Page 58 - ทางและสนามบิน
P. 58
6-3
4.2.2.1 การป้องกันน้ำไหลลงมายังคูข้างทางมากเกินไป
ื้
เพราะพนที่บางแห่งมีการตัดผ่านไปตามข้างเนินลาดทางตัด ย่อมจะชันจะ
ั
ทำให้น้ำไหลแรงลงมาตามลาด การป้องกนในกรณีดังกล่าวอาจจะสร้าง “คูดักน้ำ” เพื่อรวบรวมน้ำที่ไหล
มาก่อนถึงตัวทางหรือก่อนที่น้ำจะมีโอกาสกัดเซาะลาดข้างทาง
รูปที่ 6.4 คูดักน้ำ
CL
3
1
4.2.2.2 การป้องกันน้ำซึมมาจากคูไปยังพื้นฐานทาง
ื่
กระทำได้โดยการสร้างคูขึ้นเพอกักหรือถ่ายน้ำออกจากร่องหรือคู
รวมน้ำไปยังทางระบายน้ำตามธรรมชาติ เรียกคูที่สร้างขึ้นนี้ว่า “คูแยก” หรือ “คูระบายน้ำช่วย”
4.2.2.3 การป้องกันการกัดเซาะของน้ำที่ไหลในคูข้างทาง
ั
ลาดของคูบางที่อาจจะมากเกินไป ทำให้น้ำพดเอาดินข้างคู และดินท้อง
คูไปด้วย ลาดที่ใช้ควรอยู่ระหว่าง 0.5 - 4% ถ้ามากกว่านี้จะต้องทำเครื่องกันน้ำเซาะ (Rip Rap) เช่น ดาดคู
ั
ด้วยหินก้อนใหญ่วางเรียงกัน หรือดาดผิวด้วยแอสฟลท์ หรือคอนกรีตแต่ในทางปฏิบัติ มักไม่นิยมเพราะ
สิ้นเปลืองมาก ยังมีอกวิธีหนึ่งที่ สามารถทำให้กำลังการไหลของน้ำกระจายตัวกันออกไป ซึ่งเท่ากับเป็นการลด
ี
ความชันของลาดได้นั่นคือการสร้าง “ทำนบปรับน้ำ” โดยการใช้ไม้ปักกั้นน้ำไหลเป็นระยะ ๆ โครงสร้าง
ุ
ของทำนบปรับน้ำ ควรให้มีขนาดยื่นล้ำเกินออกไปในท้องคู และข้างคูอย่างน้อย 2 ฟต ปากคูควรจะอยู่สูง
ิ
เหนือยอดทำนบ กักน้ำอย่างน้อย 12 นิ้ว ความสูงของทำนบปรับน้ำที่เหมาะคือ 1 - 3 ฟต ชานที่เป็นเศษอฐ
ุ
เศษหินจะเป็นเครื่องใช้กันน้ำเซาะควรให้ยื่นเลยออกไปจากด้านหน้าของทำนบ ทางด้านปล่อยน้ำออก
อย่างน้อย 4 ฟต และช่องบากน้ำล้น ต้องเปิดช่องที่ยอดของทำนบให้มีความจุเพยงพอที่จะปล่อยน้ำที่คาด
ุ
ี
ื่
ว่าจะมีโดยไม่ล้น ซึ่งความมุ่งหมายก็เพอให้น้ำไหลผ่านช่องกลางที่บากไว้ สำหรับทำนบที่สร้างขึ้นจะต้อง
สร้างไว้ให้ห่างกันในระยะที่พอเหมาะ