Page 53 - ทางและสนามบิน
P. 53

5-1

                                                         บทที่ 5

                                                       โค้งทางตั้ง


               1.  กล่าวทั่วไป

                      โค้งทางตั้งเกิดขึ้นเมื่อ ระดับตามลาดแนวทางเปลี่ยนไป        การเปลี่ยนไปของลาดแนวทางจะต้อง
               เป็นไปที่ละน้อย ๆ ซึ่งจะต้องมีความราบพอที่จะให้ความสะดวกแก่การขับของยานพาหนะ แบบที่ดีที่สุดของ

               โค้งทางตั้งในการวางแนวทางและสร้างทางในสนามก็คือ โค้งแว่นไฟ  (Parabola)     ลักษณะทางเรขาคณิต
               ของโค้งนี้สามารถที่จะคำนวณและวางแนวโค้งได้     โดยวิธีลากเส้นฉากจากเส้นสัมผัส      ซึ่งสะดวกในการ

                                                                                 ่
               คำนวณหาออดิเนต (Ordinate) และดัดแปลงให้เหมาะสมต่อการวางในสนามได้งาย
                          งานช่างในสนามจำเป็นจะต้องแยกให้เห็นความแตกต่างกันระหว่างลาดขึ้น และลาดลง      สำหรับ
               ระเบียบการใช้เครื่องหมายกำหนดไว้ว่าลาดขึ้นในทิศทางของการกรุยถือว่าเป็นบวก      และใส่เครื่องหมาย (

               + ) เช่น + 5% ส่วนลาดลงถือว่าเป็นลาดลบใส่เครื่องหมาย ( - ) เช่น - 5 % เป็นต้น

               2.  ชื่อส่วนต่าง ๆ ของโค้งทางตั้ง
                                                    รูปที่ 5.1 โค้งทางตั้ง

                                                               PVI

                                                      G                  G
                                                       1
                                                                          2
                                                                  MO
                                                         O


                                     PVC                                                 PVT

                                                 d                        L/2

                                                                 L
                         PVC = จุดต้นโค้งทางตั้ง (Point of Vertical Curvature)

                         PVI = จุดตัดโค้งทางตั้ง (Point of Vertical Intersection)

                         PVT = จุดปลายโค้งทางตั้ง (Point of Vertical tangency)
                             L = ความยาวของโค้งทางตั้ง ทางระดับ

                            G1= เปอร์เซ็นของลาดอันแรก  (จาก PVC - PVI)

                            G2= เปอร์เซ็นของลาดอันหลัง (จาก PVI - PVT)
                             O= ระยะฉาก (OFFSETS) ซึ่งวัดตามแนวดิ่งจากเส้นสัมผัสไปยังส่วนโค้ง

                          MO= Maximum offset เป็นระยะฉากที่จุด PVI ซึ่งยาวที่สุด
                             d = ระยะห่างจาก PVC หรือ PVT เป็นฟุต
   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58