Page 30 - การดาดผิว
P. 30
3-4
4.5 การทดสอบฉาบ-ผสมกับมวลรวมละเอียด (Sand - Coating test)
หลังจากที่ได้ทำการทดสอบจนแน่ใจแล้วว่าวัสดุฯ ที่ต้องการพิสูจน์ทราบ คือ อีมัล
ื่
ซิไฟด์แอสฟัลต์แล้วก็ต้องทำการทดสอบต่อไปเพอแยกชนิดของอีมัลซิไฟด์แอสฟัลต์ว่าเป็นชนิดใด โดยการนำ
ื
ทรายชื้น 1 กำมอและอีมัลซิไฟด์แอสฟัลต์จำนวนเล็กน้อยมาผสมกัน จะปรากฎผลสองกรณีดังนี้
กรณี 1. ไม่ยอมผสมเข้ากับทราย แต่กลับเกาะติดช้อนที่ใช้ผสม มันคือ อีมัลชั่นชนิด
ี
บ่มแข็งตัวเร็ว (RS) เพราะอมัลชั่นชนิดนี้จะแตกตัวเร็วมากจนไม่สามารถ ผสมกับมวลรวมละเอียดได้
กรณี 2. ผสมกับทรายโดยง่ายและหุ้มทุกเม็ดทรายและเกาะช้อนด้วย มันคือ
็
อีมัลชั่น ชนิดบ่มแข็งตัวเร็วปานกลางหรือบ่มแขงตัวช้าอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งไม่จำ เป็นต้องแยกชนิดต่อไป
เพราะทั้ง MS และ SS เป็นพวกผสมได้และส่วนใหญ่ใช้ในงานประเภทเดียวกันได้
5. การพิสูจน์ทราบน้ำมันดิน
5.1 การทดสอบการละลายในปิโตรเลี่ยมกลั่น (Solubility test)
เช่นเดียวกับขอ 3.1 และข้อ 4.1 ถ้าปรากฎผลว่าวัสดุฯ ตัวอย่างที่หยดลงไปในปิ
้
โตรเลี่ยมกลั่นไม่ยอมละลาย แต่กลับก่อตัวเป็นเส้น ๆ (Strings) ก็แน่ใจได้เลยว่าวัสดุฯ ตัวอย่างนั้น คือ
น้ำมันดิน
5.2 การทดสอบการรินและเปรียบเทียบความหนืด (Pour test and determine Viscosity)
ื่
มีจุดประสงค์เพอทราบเกรดความหนืดโดยประมาณ น้ำมันดินถนนเกรด 1-12 จะอยู่
ในสถานะของเหลวจนถึงของแข็งเมื่อทำการริน แล้วเปรียบเทียบความหนืดกับวัสดุทั่วไป เช่นเดียวกับการ
เปรียบเทียบความหนืดของคัทแบคแอสฟัลต์ในข้อ 3.4 ก็จะสามารถทราบความหนืดโดยประมาณของ น้ำมัน
ดินถนนได้ รายละเอียดการเปรียบเทียบให้ไว้ในรูปที่ 3.1
5.3 การทดสอบการป้าย (Smear test)
ื่
มีจุดประสงค์เพอแยกให้ทราบว่า น้ำมันดินถนนนั้นเป็นน้ำมันดินถนนคัทแบค(RTCB)
หรือไม่ โดยหลังการทดสอบการรินแล้วปรากฎว่าเป็นน้ำมันดินถนน (RT) เกรด 4 ถึงเกรด 7 ก็นำตัวอย่าง
น้ำมันดินนั้นมาป้ายกับกระดาษ จะปรากฎผล 2 กรณี คือ
กรณี 1. ตัวอย่างข้นเหนียวเร็วมากภายใน 10 นาที คือ RTCB - 5 หรือ 6
กรณี 2. หลังจากผ่านไปกว่า 10 นาที ตัวอย่างยังคงไหลเยิ้มไม่ข้นเหนียว คือ RT