Page 33 - การดาดผิว

4-2

2.1.3.1 พื้นแห้งสนิท ( Completely Dry)

เมื่อฉาบก่อนลงผิวแล้วมักจะเกิดรอยแยกแล้วน้ำจะซึมเข้าทำลายชั้นรากได้
ในกรณีที่พื้นแห้งให้พรมน้ำได้ในอัตรา 0.2 - 0.3 แกลลอน/ตร.หลา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของชั้นราก และสภาพ

ื
อากาศในขณะนั้น เพื่อพรมน้ำแล้วต้องทิ้งไว้ให้พื้นแห้งหมาด ๆ หรือแห้งเกอบสนิท จึงทำการฉาบ กรณีพื้น
แห้งสนิทนี้มักไม่ค่อยปรากฎ เพราะการบดอัดชั้นรากให้ได้ความแน่นตามต้องการ มักจะมีการพรมน้ำช่วย
ื่
เมื่อจัดให้ได้ความชื้นในมวลดินที่พอเหมาะ (OMC) และก่อนการกวาดฝุ่นมักจะมีการราดน้ำเพอให้คราบฝุ่น
่
ที่เกาะอยู่กับหินหลุดออกงายขึ้น
2.1.3.2 พื้นเปียกชื้นไป
เมื่อฉาบก่อนลงผิวแล้วน้ำที่อยู่ข้างใต้ เมื่อได้รับความร้อนจะขยายตัวดัน

ยางที่ฉาบก่อนลงผิวไว้ให้ปริแยกแล้วน้ำก็จะซึมลงทำลายชั้นรากได้ โดยปกติความชื้นในมวลดินก่อนการฉาบ
ุ
ก่อนลงผิว ย่อมให้ไม่เกิน 1/2 ของ OMC หรือโดยการพิจารณาจากอณหภูมิในที่ร่มต้องสูงกว่า 50 ํ F หรือ
เมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 35 ํ F นานมาแล้ว 12 ชม. สำหรับการใช้อิมัลซีไฟด์แอสฟัลต์ก็ไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดใน
เรื่องเหล่านี้นัก

2.1.4 ลำดับขั้นการฉาบก่อนลงผิว (Sequence of Operation)

2.1.4.1 การกวาด (Sweeping)
โดยใช้เครื่องกวาดฝุ่น (Power Broom) ที่มีซี่ลวดเหล็ก ปรับอัตราเร็วการ

หมุนและน้ำหนักกดให้เพียงพอที่จะกวาดฝุ่นออกโดย "มีหน้าหินโผล่" ในส่วนที่เครื่องเข้าไม่ถึงให้ใช้ไม้กวาด

ช่วย เสร็จแล้วใช้เครื่องเป่าลม (Power Blower) เป่าฝุ่นออกจนหมด
2.1.4.2 การราดยาง (Application of Bituminus Material)

ราดยางตามอัตราและอณหภูมิที่กำหนด และสำหรับการฉาบก่อนลงผิว
ุ
้
ต้องราดเกินออกไปด้านข้างของความกว้างผิวทางขางละ 1 ฟุต หรือ 30 ซม.
2.1.4.3 การบ่ม ( Curing )

ถ้าสภาพอากาศดีให้ทิ้งไว้ 24 ชม. สภาพอากาศเลวทิ้งไว้ 48 ชม.โดยปกติ
่
จะทิ้งให้บ่มตัวอย่างน้อย 48 ชม. จึงเริ่มการกอสร้างชั้นผิวทาง และจะทิ้งไว้ไม่เกิน 1 เดือน เพราะหลังจากนี้
ยางที่ฉาบก่อนลงผิวไว้จะเสื่อมคุณสมบัติ