Page 37 - การดาดผิว
P. 37
4-6
3.1 การฉาบปิดหน้า (Seal Coat)
คือ การแต่งผิวหน้าของผิวทางราดยางเดิม โดยการราดวัสดุบิทูมินัสในอัตรา 0.1-0.2
แกลลอน/ตร.หลา แล้วสาดทับด้วยหินเกล็ดขนาด 1/8 นิ้ว ในอัตรา 8-15 ปอนด์/ตร.หลา เพื่อปิดผิวที่
ขรุขระของผิวทางราดยางบางชนิดให้แน่นสนิทเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อ
3.1.1 ปิดผิวหน้าถนนกันน้ำซึม (ในกรณีผิวทางเดิมใช้มวลรวมคลุกลำดับขนาดเปิด)
(Open Gradation)
3.1.2 ปรับปรุงผิวทางให้สดใส
3.1.3 เพิ่มความต้านทานการเสียดสี
3.1.4 ทำให้เกิดสีที่เห็นชัดในเวลากลางคืน
3.2 Fog Seal
ี่
คือการแต่งผิวหน้าของผิวทางราดยางเดิมทมีรอยแตกแยกขนาดเล็กมาก (Hair
Cracks) หรือผิวทางที่เริ่มเสื่อมสภาพด้านความหยุ่นตัว โดยการฉีดพ่นวัสดุบิทูมินัสบาง ๆ ลงเคลือบคลุมผิว
ทางเดิมเพื่อช่วยยืดอายุผิวทาง,อุดรอยแตกขนาดเล็กและกันน้ำซึม นิยมใช้ SS-1 ผสมน้ำเท่าตัวอัตราราดยาง
0.05 แกลลอน/ตร.หลา (0.23 ลิตร/ตร.ม.)
3.3 Slurry Seal
คือการนำเอาอีมัลซีไฟด์แอสฟัลต์ชนิดแตกตัวช้า (SS-K หรือ SS-KH) มาผสมกับมวล
รวมขนาดเล็กแล้วปูราด (Pave) ลงบนผิวทางราดยางเดิมที่ต้องการการเแต่งผิว (ส่วนผสมสเลอรี่ซีลชนิดที่ 4
ใช้ในการแต่งผิวแทนการแต่งผิวแบบสองชั้น -Double Surface Treatment ) การผสมสามารถ กระทำได้ใน
รถผสมสเลอรี่ซีล (Slurry Seal Machine), รถขน-ผสมคอนกรีต (Transit - mix concrete truck) หรือแม้ใน
เครื่องผสมปูน (Plaster or concrete Mixer) จุดเด่นของรถผสมสเลอรี่ซีล คือมีที่เก็บส่วนผสมอยู่ในตัว,ผสม
ี
ได้ด้วยตัวเอง, และมเครื่องปูราด (Spreader box) ติดอยู่ สำหรับรถขน-ผสมคอนกรีตเด่นที่มีความจุสูง ส่วน
เครื่องผสมปูนเหมาะกับงานขนาดเล็ก ๆ เท่านั้น
3.3.1 การผสมสเลอรี่ซีล
จะต้องใช้ความระมัดระวังและเอาใจใส่การผสมเป็นพิเศษ เริ่มโดยการใส่
น้ำลงไปแล้วเริ่มเดินเครื่องผสม อันดับสองใส่มวลรวมตามปริมาณและลำดับขนาดที่กำหนดลงไป และสุดท้าย
จึงใส่อิมัลซิไฟด์แอสฟัลต์ลงไป การใส่ส่วนผสมต่าง ๆ ต้องทำอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ ระวังไม่ให้เกิดการจับตัว
เป็นก้อน