Page 39 - การดาดผิว
P. 39
4-8
3.3.4 ชนิดของสเลอรี่ซีล
แบ่งตามความแตกต่างของมวลรวมคลุกในตารางที่ 4.3 ได้สี่ชนิด การเลือกใช้
สเลอรี่ซีลชนิดใด ๆ แล้วแต่จุดประสงค์ของการใช้งาน สภาพผิวทางเดิมและสิ่งแวดล้อม
ชนิดที่ 1 เป็นสเลอรี่ซีลชนิดที่มีความสามารถในการแทรกซึมรอยแตกได้ดี มีความ
ยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับงาน
- ยารอยแตกเป็นพื้นที่กว้างมาก ๆ
- ปูเป็นผิวทางชั่วคราวเพื่อรอการกอสร้างผิวทางที่ดีกว่าต่อไป และ
่
- ปูเป็นผิวทางที่มีปริมาณการจราจรน้อย ความเร็วต่ำ และชั้นราก ระบายน้ำได้ดี
ชนิดที่ 2 เป็นสเลอรี่ซีลชนิดที่มีความละเอียดมากพอที่จะลงไปอุดรอยแตก ขนาดใหญ่กว่า
ชนิดที่ 1 เหมาะสำหรับงาน
- ฉาบปิดหน้าผิวทางที่ขรุขระปานกลาง เช่น พีนีเทรชั่นแมคคาดัม หรือ
เซอร์เพสทรีตเมนต์
- ใช้แทนการแต่งผิวชั้นเดียว (Single Surface Treatment)
ุ
ชนิดที่ 3 เป็นสเลอรี่ซีลที่มีผิวค่อนข้างหยาบ สามารถอดรอยหินหลุดได้ดี ใช้ปรับระดับ
ผิวเดิมได้เล็กน้อย เหมาะสำหรับงาน
- ฉาบปิดหน้าผิวทางเดิมที่ขรุขระมาก
- ฉาบเป็นชั้นแรกหรือชั้นที่สองเมื่อต้องแต่งผิวแบบสเลอรี่ซีล หลายชั้น
- ใช้ฉาบผิวเพื่อแก้จุดสูงกลางถนน (Crown Slope) ที่ผิดไปเล็กน้อย
- ใช้ฉาบผิวทางแบบบิทูมินัสคอนกรีตที่เกิดการกระจุย (Ravelling)
ชนิดที่ 4 เป็นสเลอรี่ซีลที่หยาบที่สุด ใช้อุดรอยหินคลุกได้ดี ปรับระดับผิวทางเดิมได้ดี
เหมาะสำหรับงาน
- แต่งผิวทางแบบบิทูมินัสคอนกรีตที่เสียหายหรือหมดสภาพ
- ใช้แทนการแต่งผิว สองชั้น (Double Surface Treatment)
3.3.5 ลำดับชั้นการปูราดสเลอรี่ซีล
3.3.5.1 กวาดและปรับผิวทางเดิม ถ้าผิวทางเดิมชำรุดมากเป็นหลุมลึกให้ซ่อมปะ
แบบลึก (Deep Patching) ถ้าชำรุดตื้น ๆ เป็นบริเวณกว้างหรือไม่ได้ระดับให้ซ่อมปะผิว (Skin
Patching) เสร็จแล้วกวาดฝุ่นและหินที่หลุดลอยออกให้หมดด้วยเครื่องกวาดฝุ่น โดยผิวทางเดิมไม่เสียหาย
3.3.5.2 พรมน้ำ หรือฉาบกอนเพิ่มผิวถ้าจำเป็น เพื่อให้มีการยึดเกาะที่ดีระหว่าง
่
ผิวทางเดิม กับสเลอรี่ซีลควรมีการพรมน้ำบาง ๆ ลงบนผิวทางเดิมก่อนปูราดสเลอรี่ซีล โดยปกติจะมีการ
ติดตั้งเครื่องฉีดน้ำเป็นฝอย-ละออง อยู่ที่หน้ารถปูราดอยู่แล้วเพื่อฉีดน้ำให้ผิวทางเปียกทั่วถึงเช่น Fog Spray
Bar ถ้าต้องปูราดสเลอรี่ซีลลงบนผิวทางเดิมที่ใช้ในหินที่มีความพรุนสูงและแห้งมาก(Dry Porous Surface)
หรือผิวทางคอนกรีตก็ควรทำแทคโคทโดยใช้ SS-1 ผสมน้ำเท่าตัวฉีดพ่นด้วยอัตรา 0.12-0.15 แกลลอน/
ตร.หลา