Page 85 - การก่อสร้างและสาธาฯ
P. 85
5-1
บทที่ 5
สายไฟฟ้า
1. กล่าวทั่วไป
สายไฟฟ้าเป็นตัวน ากระแสไฟฟ้าจากเครื่องก าเนิดไฟฟ้า (Generator) ไปยังอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
(Load) ถ้าสามารถคานวณขนาดสายไฟฟ้าได้ถูกต้อง ก็จะลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับวงจรไฟฟ้าที่ออกแบบได้
อีกทั้งเป็นการช่วยลดความเสียหายแก่เครื่องป้องกันวงจรไฟฟ้า เช่น ฟิวส์ (Fuse) หรือ สวิทช์ตดตอน (Circuit
ั
Breaker) เป็นต้น
ั
สายไฟฟ้ามีหลายชนิด สายไฟฟ้าท าจากทองแดงจดว่าเป็นตัวน าที่ดีชนิดหนึ่ง และนิยมใช้โดยทั่วไป แต ่
ในปัจจุบันนี้สายไฟฟ้าที่ทาจากอลูมิเนียมแท้ หรือผสม ก็นิยมใช้กันมาก ทั้งนี้เพราะประหยัด และเบากว่า แต่ถึง
อย่างไรก็ตามทองแดงก็เป็นตัวน าที่ดีกว่าอลูมิเนียม
2. คุณสมบัติของสายไฟฟ้า
2.1 การน าไฟฟ้า
สายไฟฟ้าชนิดเดียวกัน สายที่มีพื้นที่หน้าตัดมากจะมีขีดความสามารถในการให้กระแสไฟฟ้า
ผ่าน ได้ดีกว่าสายไฟฟ้าที่มีพื้นที่หน้าตดน้อย
ั
้
2.2 ความตานทาน
สายไฟฟ้าขนาดและชนิดเดียวกัน สายไฟฟ้าที่ยาวจะมีความต้านทานภายในสายมากกว่า
้
สายไฟฟ้าที่สั้น ความต้านทาน หรือความตานทานการไหลของกระแสไฟฟ้านี้จะมีผล ต่อการเกิด
แรงดันไฟฟ้าตก (Voltage Drop ) ภายในสายไฟฟ้า
2.3 การตกของแรงดันไฟฟ้าภายในตัวน าไฟฟ้า หรือสายไฟฟ้า (Voltage Drop)
การตกของแรงดันไฟฟ้า สามารถค านวณหาได้จากสูตร E = I R
โดย E = แรงดันไฟฟ้าตกภายในสายไฟฟ้า หน่วยเป็นโวลท์
I = กระแสไฟฟ้า หน่วยเป็นแอมแปร์
R = ความต้านทาน ภายในสายไฟฟ้า หน่วยเป็นโอห์ม
3. กฎการใช้สายไฟฟ้า
3.1 ขนาดของสายไฟฟ้าจะต้องใหญ่พอกับการที่จะให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้
ั
3.2 ต้องติดตั้งฟิวส์ (Fuse) หรือ สวิตช์ตดตอน (Circuit Breaker) ให้ถูกขนาด เพื่อป้องกันวงจรไฟฟ้า
ั
เมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือ เกิดความร้อนขึ้นภายในสายไฟฟ้าเนื่องจากใช้ก าลงไฟฟ้าเกินขนาด (Over Load )
3.3 ขนาดของสายไฟฟ้าจาก Node ถึง Node จะต้องมีขนาดเท่ากัน
่
3.4 ขนาดของสายไฟฟ้าส่วนที่อยู่ไกลจากเครื่องก าเนิดไฟฟ้ามาก จะมีพื้นที่หน้าตัดเทากับ หรือ น้อย
้
กว่า ส่วนที่อยู่ใกลเครื่องก าเนิดไฟฟ้าเสมอ