Page 87 - ทางและสนามบิน
P. 87

6-4


                     9.  พื นที สําหรับพื นดินเดิมสามระดับ ( Area for Three-level Section )
                                                                                                ์
                                                                                         ื

                                                         ํ
                               ่
                           จากคาระดับ 3 จุด ซึงทราบจากการกาหนดหมุดขอบลาด ( slope stakes ) คอจุดศูนยกลาง และ
                                 ้
                                              ้

                    ทีจุดปลายลาดขางถนนทั งสองดานก็สามารถคานวณหาพื นทีรูปตัดตามแนวขวางของทางทีราบระดับของ
                                                          ํ



                                              ํ

                                                                      ็
                                                                          ี
                                                                              ้

                                                                                  ้
                                       ี

                    ฐานได้ สําหรับพื นทีทีมความสมาเสมอไม่ขึ น ๆ ลง ๆ มากนักกใช้วิธนี ไดถูกตอง

                                                        ็

                                                                                   ี

                           ในรูปที 6.3 แบ่งพื นที ABED ออกเปนรูปสามเหลียม 4 รูป รูปสามเหลยม CPD  และ CPE มีฐาน

                                                                       ี

                    รวมเท่ากับ d  และส่วนสูงเท่ากับ x  , x ตามลําดับ รูปสามเหลยม ACD และ BCE มีฐานเท่ากับ b/2 และ
                                                   2
                                                1
                           ่
                    ส่วนสูงเทากับ h  , h ตามลําดับ ดังนั นหาพื นทีได ้


                                 1
                                    2
                           A = (1/2) [ d(x  + x ) +   b(h  + h ) ]                     (6.2)
                                               1
                                                    1
                                                        2
                                       1
                                           2
                                               2
                           ถาหากไม่ทราบขอมูลจากการบันทึกของการกาหนดตาแหน่ง   ของหมุดขอบลาด   การหาพื นทีอาจ
                                        ้
                            ้
                                                               ํ
                                                                      ํ

                                ้
                                                                                                       ี

                    กระทําได้โดยใชการวัดค่าในสนาม  4  ค่า  ดังแสดงในรูปที  6.4  จากการสมมุติว่า  พื นดินเดิมมีลาดเอยง

                                                 ้

                    สมําเสมอ ก็สามารถคํานวณพื นทีไดจากสูตร
                           A = (1/2) (h x†+ h x¢)                                      (6.3)
                                     1
                                          2
                                          ้
                    10. การหาพื นที โดยใชกราฟ ( Area by Graphical Method )

                                                                             ้
                                                   ํ
                                                                                        ้

                           การหาพื นทีโดยวิธกราฟกระทาได้โดยเขียนรูปตัดของพื นทีทีตองการให้ถูกตองตามมาตราส่วน เช่น
                                          ี

                           ื

                                                                          ี
                                                           ั

                                                     ื
                                                                                        (
                                                  ื
                                                                                         ์
                    1:100 หรอ 1:50    จากนั นใหใช้เครองมอสําหรบวัดหาพื นที ซึงเรยกวาแพลนิมิเตอร planimeter )  ลาก
                                                                             ่
                                             ้


                                ้
                                                                                                  ้

                                                                                              ็
                                                          ้
                                                           ้

                                                                                   ื
                         ้
                    ตามเสนแนวเสนรอบรูป   แลวแปลงค่าทีอ่านไดดวยค่าตัวคูณคงทีของเครองมอทีใชนั น  กจะไดขนาดของ
                                                                                       ้
                                                                               ื

                                           ้




                    พื นทีนั นตามมาตราส่วนทีใช้
                                                  ํ
                                                                   ั
                                          ้
                    11. การหาพื นที โดยใชวิธการคานวณจากค่าพิกด ( Area by Coordinate Method )
                                             ี
                                                                                 ํ

                           จากค่าพิกัดของแต่ละจุดในรูปตัดแนวขวาง   สามารถนํามาใช้คานวณหาค่าพื นทีได้ซึงสามารถ


                         ์
                             ้
                    พิสูจนกฎได จากรูปที 6.5 ดังต่อไปนี
                                                                                  ี
                                                                                           ่


                                              ํ
                           หลักการ จากรูปที 6.5 กาหนดให้จุด A,B,C และ D ของพื นที ABCE มค่า พิกัดเทากับ

                         y
                                                                                 ้
                                  y
                                            y
                                                                                               ี
                                                         y
                    (x 1  , )  ,  (x 2  , )  ,  (x 3  , )  และ  (x 4  , ) ตามลําดับ  ค่าพื นทีหาไดจากผลบวกทางพชคณิตของรูป
                                   2
                          1
                                             3
                                                          4

                    สเหลียมคางหมูทีเกียวของ 4 รูปดังนี


                     ี

                                       ้
                           y 1          y 2           y 3          y 4           y 1
                           x 1          x 2           x 3          x 4           x
                                                                                  1

                                                       ึ
                            ่
                                                             ื

                           คาคูณตามแนวทแยงทีหัวลูกศรชี ข น มีเครองหมาย วก

                                                                   บ
                                                            ื
                           คาคูณตามแนวทแยงทีหัวลูกศรชี ลง มีเครองหมาย ลบ


                            ่
                           ผลรวมที ได้จะมค่าเปน 2 เท่าของพื นที
                                       ี
                                           ็
                                                                  ้
                                 ํ
                                                                              ้
                                                                                 ํ
                           ในการคานวณหาพื นทีของดินตัด และดินถมจะตองแยกคิดไม่ตองนามารวมกัน
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92