Page 32 - การวางแผนการก่อสร้าง
P. 32
2-10
เหตุที่ต้องท าธุรกิจแบบกิจการค้าร่วมก็เนื่องจากต้องการรวมคุณสมบัติและปัจจัยต่าง ๆ ของแต่
ื่
ละสมาชิกเพอการด าเนินงานขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ทุนทรัพย์ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการ
ี
ก่อสร้างเฉพาะอย่างต่าง ๆ กัน ตัวอย่างเช่น โครงการงานสร้างท่าอากาศยานใหม่ ในโครงการเช่นนี้จะมทั้ง
งานก่อสร้างและงานประกอบมากสาขา เช่น สนามบิน ลานจอดอาคารต่าง ๆ แบบระบบไฟฟา ระบบ
้
ประปา ระบบดับเพลิง ระบบส่งสัมภาระ และสิ่งอานวยความสะดวก ในกิจการสนามบินซึ่งมีมูลค่าสูง และ
ต้องการความช านาญพเศษ บริษัทเดียวอาจไม่มีก าลังและความสามารถพอที่จะท างานได้ จึงต้องรวมกัน
ิ
การรวมกนในลักษณะนี้เป็นลักษณะชั่วคราว จึงควรจดทะเบียน หรือท าสัญญาร่วมกิจการค้ากันโดยเฉพาะเป็น
ั
งาน ๆ ไป การแบ่งสาระประโยชน์และความรับผิดชอบต่าง ๆ ซึ่งควรตกลงและระบุให้ชัดเจน
2.3 การรับงานด้วยระบบ Turn Key
ี
ธุรกิจก่อสร้างอกประเภทหนึ่งซึ่งเป็นของใหม่ส าหรับประเทศไทย คือ ระบบ Turn Key ซึ่งไม่ใช่
รูปแบบของธุรกิจ หากแต่เป็นการประกอบธุรกิจก่อสร้างในท านองเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่ศึกษาหาความเป็นไปได้
ของโครงการออกแบบ และท าการก่อสร้างให้เจ้าของงานเสร็จเลย เจ้าของเสมือนผู้ไปพกในโรงแรมเพยงแต่
ี
ั
จ่ายเงินและถือกุญแจไปเปิดห้องพกเท่านั้น การตกลงในระบบ Turn Keyนี้ ใช้กรรมวิธีและขั้นตอนตั้งแต่เริ่ม
ั
การออกแบบอาคารและจัดงานก่อสร้างทั้งหมด รวมทั้งวิธีการปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ นั้นด้วย งาน Turn
Key บางโครงการผู้ก่อสร้างเป็นผู้หาแหล่งทุนสนับสนุนโครงการให้ผู้ลงทุน หรือเจ้าของด้วย ฉะนั้น รูปแบบ
่
องค์การอาจแตกต่างกว่าองค์การที่มีจุดมุ่งหมายเพียงรับเหมากอสร้างอย่างเดียว
2.4 ผู้จัดการงานก่อสร้าง (Construction Manager)
ี
ย้อนหลังไปจากนี้ประมาณ 25 ปี ในวงการก่อสร้างของไทยเรารู้จักกันแต่เพยงว่าสถาปนิกเป็น
ผู้ออกแบบและผู้รับเหมาเป็นผู้ก่อสร้าง แต่ในปัจจุบันเริ่มมีความรู้ว่า ในทีมงานก่อสร้างไม่มีเฉพาะ เจ้าของ
ผู้ออกแบบ และผู้รับเหมาก่อสร้างเท่านั้น ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งเรียกว่า C.M.หรือผู้จัดการงานก่อสร้าง
ผู้จัดการงานก่อสร้างจึงเป็นกลุ่มใหม่ในธุรกิจก่อสร้างของไทยและเริ่มมีความส าคัญขึ้นเรื่อย ๆ
ทั้งนี้เพราะ งานก่อสร้างจ าเป็นต้องใช้หลักและเทคนิคของการจัดการ (Management) และเทคนิคของการ
ออกแบบและการก่อสร้างควบคู่กัน สถาปนิก วิศวกรมีความรู้เฉพาะด้านการออกแบบและค านวณไม่สันทัดใน
ด้านการจัดการ เมื่องานก่อสร้างเป็นงานในกระดาษหรือมโนภาพก็ไม่ยาก แต่เมื่อต้องท าให้เกิดเป็นงานสร้าง
จริงขึ้นความสับสนและยุ่งยากจะเกิดขึ้น ทั้งนี้เพราะ งานก่อสร้างเกิดขึ้นโดยเรียบร้อยสมบูรณ์ตามเป้าหมายก็
ด้วยการจัดให้ทรัพยากรของการก่อสร้าง ท างานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ และผู้ที่ใช้วิชาชีพนี้
จ าเป็นต้องเป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลอนที่ได้ศึกษาฝึกอบรมมา โดยเฉพาะ Construction Management จึง
ื่
เป็นศาสตร์ที่แตกต่างกับงานออกแบบและงานค านวณโครงสร้างมาก
ผู้ที่เป็นผู้จัดการงานก่อสร้าง ต้องมีความรู้ในด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมมากพอที่จะ
วิเคราะห์ปัญหาทางเทคนิคได้ในด้านหลักการ (Concept) ขณะเดียวกันก็จะต้องมีความรู้ ความสามารถ
และประสบการณ์ด้านการจัดการ การบริหาร การเงิน การบัญชี สถิติ กฎหมาย เศรษฐศาสตร์ แรงงาน และ
จิตวิทยา เป็นอย่างดี ผู้จัดการงานก่อสร้างเป็นผู้ให้ค าแนะน าที่จะท าให้เกิดความสะดวกในการก่อสร้างรวมทั้ง
การประหยัดทั้งทุนทรัพย์และเวลา