Page 30 - การวางแผนการก่อสร้าง
P. 30
2-8
การก าหนดและจัดวางเขตพื้นที่ต่าง ๆ ในบริเวณก่อสร้างนั้น หากมีการก าหนดเขตที่ตั้งไว้
แน่นอนแล้วจะท าให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและปฏิบัติงานได้โดยสะดวกและมีการสูญเปล่าน้อย
1.2.3 การจัดการในสถานที่ก่อสร้าง
ทีมงานก่อสร้างในสนามประกอบด้วยบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในระดับต่าง ๆ กัน
ตั้งแต่ผู้จัดการโครงการลงมาถึงเด็กประจ าส านักงาน การแบ่งแยกหน้าที่รับผิดชอบในหน่วยงานกระท าตาม
แผนและกิจกรรมที่เกิดขึ้น โดยปกติแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่รับผิดชอบในด้านเทคนิค มีวิศวกร
ช่างเทคนิค ช่างฝีมือ คนงาน และผู้รับเหมาช่วง ทีมงานส าคัญที่ปฏิบัติงานภายใต้ผู้จัดการโครงการ หรือ
วิศวกรก ากับการ หรือหัวหน้าผู้ควบคุมด าเนินงาน แล้วแต่กรณี มีหน้าที่รับผิดชอบส าคัญ คือ ด าเนินงาน
ก่อสร้างให้เสร็จเรียบร้อยตามแบบรูปรายการ เทคนิค และวิธีการตามหลักวิชา โดยมีแผนงานเป็นแนวทาง
ส าหรับปฏิบัติ ความขัดข้องทางด้านเทคนิคในการปฏิบัติงาน ทีมงานนี้จะแก้ปัญหา หากแก้ไม่ได้ก็จะต้อง
น าเข้าหารือกับผู้ควบคุมงานฝ่ายเจ้าของ หรือผู้ออกแบบ โดยผ่านผู้จัดการโครงการ หรือหัวหน้างานสูงสุดของ
ตนเอง ส าหรับในส านักงานสนามก็จะมีหน่วยควบคุมพสดุ การเงิน การรายงาน ผลความก้าวหน้างานบุคลากร
ั
และคนงานทั้งงานสถิติด้วย
กลุ่มบุคคลทั้ง 2 กลุ่ม จะอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาและควบคุมของผู้จัดการโครงการ
ื่
วิศวกรก ากับการ หัวหน้าผู้ควบคุมงาน ตามแต่จะจัดให้มี และจะท างานร่วมกันและประสานกันอย่างดี เพอให้
งานก่อสร้างเสร็จลงตามแผนงานและเป้าหมายที่ก าหนด ทีมการจัดการและปฏิบัติในสนามรวมกันเป็นกลุ่ม
บุคคล เป็นองค์การขนาดย่อม ซึ่งเรียกว่า “ ส านักงานสนาม “ หรือ Field Operation Office ส านักงาน
สนามจะต้องท างานประสานกันกับส านักงานกลาง (Home Office) โดยใกล้ชิด และให้เกิดความเข้าใจที่
กระจ่างชัดที่สุด มิฉะนั้นงานก่อสร้างจะไม่ราบรื่น เนื่องจากปัญหาทางด้านการจัดการ เพราะโดยปกติ
ส านักงานสนามจะเป็นผู้รายงานผลงานและขอรับการสนับสนุนในด้านการจัดซื้อ การเงิน และการตัดสินใจบาง
เรื่องจากส านักงานใหญ่เป็นประจ า เพราะส านักงานสนามไม่มีอ านาจเต็มในด้านเหล่านี้
2. รูปแบบของการจัดงานธุรกิจก่อสร้าง
2.1 การรับด าเนินงานเฉพาะการก่อสร้าง
รูปแบบธุรกิจของผู้รับเหมาขึ้นอยู่กับขนาดของกิจการ ผู้รับเหมาที่ท างาน หรือรับงานขนาดเล็ก
สามารถด าเนินงานด้วยตนเองได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ การประกวดราคา การจัดซื้อ การควบคุมงาน จนถึงงาน
ี
ื่
ธุรการ แม้จะมีคนอนร่วมงานบ้างก็เป็นเพยงผู้ช่วยเท่านั้น ไม่มีอานาจหน้าที่ เจ้าของกิจการจะสั่งงานและ
ี
ควบคุมการด าเนินการเพยงคนเดียว จึงมีภาระสูงทั้งด้านวิธีการ (Thinking) และปฏิบัติการ (Doing) กิจการ
ลักษณะนี้มักจะเรียกกันทั่วไปว่า " One Man Show " หรือที่ชาวไทยสมัยก่อนเรียกกันว่า " ระบบหลงจู๊ "
ระบบนี้มีส่วนดีในด้านการตัดสินใจที่ฉับไว การด าเนินงานที่รวดเร็ว หากเจ้าของหรือหลงจู๊ มีประสิทธิภาพและ
ความสามารถรวมทั้งทุ่มเทเวลาให้กับการด าเนินงานอย่างเต็มที่ แต่ส่วนเสียก็มีอยู่มาก เพราะการ
ปฏิบัติงานและการตัดสินใจกระท าโดยคน ๆ เดียว ความพลั้งพลาดย่อมเกิดขึ้นได้มากกว่าการท างาน
เป็นกลุ่ม อกประการหนึ่งเมื่อภาระหน้าที่ต่อการงานทุกชนิดถ้าเป็นกิจการที่มีขนาดใหญ่และ มีความยุ่งยาก
ี