Page 56 - Way&Airfield
P. 56
4-11
ขนทรายไปถมคันทาง แล้วตีแผ่ คลุกเคล้า ผสมนํ้า โดยที่ประมาณว่าให้มีปริมาณนํ้าที่ Optimum Moisture
Content + - 3% หลังจากที่ได้แต่งเกลี่ยดินจนได้ที่แล้วให้ทําการบดทับทันทีด้วยเครื่องมือบดทับทั่วผิวหน้า
อย่างสมํ่าเสมอ จนได้ความแน่นตลอดความหนาตามข้อกําหนด
การดําเนินการก่อสร้างดังที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ให้ทําเป็นชั้น ๆ โดยมีความหนา
แต่ละชั้นตามข้อ 4.3.3 หากผู้รับจ้างไม่สามารถจะทําการก่อสร้างตามวิธีดังกล่าวได้และประสงค์จะดําเนิน
วิธีอื่นใด จะต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมทางหลวงก่อน และเมื่อได้สร้างคันทางจนเสร็จชั้นสุดท้ายแล้ว
ถ้าไม่ต้องทิ้งไว้ในช่วงระยะเวลาถมทิ้งไว้ ( Waiting Period ) ตามที่กําหนดไว้ในข้อกําหนดพิเศษ ให้เกลี่ย
ทรายจนได้แนว ระดับ ความลาด ขนาด และรูปตัดตามที่แสดงในแบบ บดทับจนได้ความแน่นตาม
ข้อกําหนด แล้วก่อสร้างชั้นทางชั้นถัดไปปิดทับทันที
กรณีต้องทิ้งไว้ในช่วงระยะเวลาถมทิ้งไว้ตามที่กําหนด ไว้ในข้อกําหนดพิเศษ
เมื่อครบกําหนดระยะเวลาแล้ว ให้ตรวจสอบระดับชั้นทรายถมคันทางและทําการปรับระดับ แล้วเสริมด้วย
ทรายที่มีคุณภาพถูกต้องก่อสร้างขึ้นมาเป็นชั้น ๆ ตามวิธีการข้างต้นเสร็จชั้นสุดท้าย เกลี่ยแต่งจนได้แนว
ระดับ ความลาด ขนาดและรูปตัดตามที่แสดงในแบบบดทับจนได้ความแน่น ตามข้อกําหนด แล้วก่อสร้าง
ชั้นทาง ชั้นถัดไปปิดทันที
กรณีก่อสร้างด้วยวิธี Preload ด้วยนํ้าหนักส่วนที่เกิน ( Surcharge ) ให้ดําเนิน
การถมทรายเป็นชั้น ๆ โดยให้มีความหนาของแต่ละชั้น ตามข้อ 4.3.3 จนได้รับ Preload Elevation แล้วให้
ทิ้งไว้ตามระยะเวลาแล้วให้ตักวัสดุส่วนที่เกินออก จนได้ระดับประมาณชั้นสุดท้ายของคันทาง ทําการ
ปรับระดับแล้วเสริมด้วยทรายที่คุณภาพใช้ได้ เกลี่ยแต่งจนได้แนว ระดับ ความลาด ขนาดและรูปตัด ตามที่
แสดงในแบบ บดทับจนได้ความแน่นตามข้อกําหนด แล้วก่อสร้างชั้นทางชั้นถัดไปปิดทับทันที
กรณีต้องก่อสร้างขยายคันทางเดิม ให้ทําการตัดเชิงลาดคันทางเดิมเป็นแบบ
ชั้นบันไดจากปลายเชิงลาดจนถึงขอบไหล่ทางโดยใช้เครื่องจักรที่เหมาะสมดําเนินการแล้วถมทรายเป็นชั้น
ๆ ให้ความหนาแต่ละชั้น ตามข้อ 4.3.3
ให้ทําการป้องกันลาดคันทาง ( Slope Protection ) เพื่อป้องกันนํ้าเซาะทรายถม
โดยเร็วที่สุดด้วยดินเหนียวหนาไม่น้อยกว่า 200 มิลลิเมตร หรือตามที่กําหนดไว้ในแบบ แล้วปลูกหญ้า
4.3.3 การควบคุมคุณภาพขณะก่อสร้าง
การก่อสร้างชั้นทรายถมคันทางให้ก่อสร้างเป็นชั้น ๆ โดยให้มีความหนาหลังบด
ทับชั้นละไม่เกิน 200 มิลลิเมตร