Page 16 - การดาดผิว
P. 16

2-3

                              1.3.2 ความแข็งและความคงทน  (Hard and Durable, บางตำราใช้ Toughness)

                                            ในระหว่างกรรมวิธีการผลิต    การขนถ่าย    และการบดอัดวัสดุผสมนั้น
               มวลรวมได้รับการย่อยและขัดถู จึงอาจสึกกร่อนเพิ่มขึ้น หลังจากเทราดถนนและเปิดใช้บริการแล้ว อนุภาคมวล

               รวมก็อาจสึกกร่อนต่อไปอีก  เนื่องจากน้ำหนักบรรทุกของการจราจร  (Traffic  load)    ดังนั้นมวลรวมที่จะ

               นำมาใช้ต้องมีความสามารถต้านทานการบดย่อย (Crushing)  การเสื่อมทราม (Degradation) และ การแตก
                                                                         ็
               สลาย (Disintegration)  มวลรวมในชั้นผิวทางยิ่งจำเป็นต้องมีความแขงมากกว่ามวลรวมที่ใช้ในการก่อสร้างชั้น
               ล่าง ๆ ลงมา

                                            ความแข็งของมวลรวมนั้นทดสอบได้โดย  "การทดสอบการสึกหรอลอสแอง
               เจลีส"  ซึ่งจะบ่งบอกค่าความต้านทานการสึกหรอของมวลรวม

                              1.3.3 ลำดับขนาดตามต้องการ (Graded as desired)
                                            การจัดขนาดคละของมวลรวม(Gradation)  เปลี่ยนแปลงไปตามชนิดของการ

                                                                              ี
               ใช้งาน ขนาดคละชนิดหนึ่งอาจเหมาะกับงานเฉพาะอันหนึ่งแต่ไม่เหมาะกับอกงานหนึ่ง สรุปง่าย ๆ คือ ชนิดของ
               งานและชนิดของวัสดุบิทูมินัสที่ใช้จะกำหนดลำดับขนาดที่เหมาะสมไว้โดยเฉพาะ

                              1.3.4 ความสะอาดและความแห้ง ( Cleanlinese and Dry)

                                            ความสะอาดนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อคณภาพของวัสดุผสม  มวลรวมบาง
                                                                             ุ
               ชนิดมีสารแปลกปลอมหรือสารที่ทำความเสียหาย    ทำให้ไม่เหมาะสมสำหรับใช้ในวัสดุผสมของถนนราดยาง

               นอกเสียจากจะมีการลดปริมาณสารแปลกปลอมจนไม่มีผลเสียต่อการใช้งาน โดย "ข้อกำหนด" จะระบุชื่อสารที่

               จะกอความเสียหายไว้  และปริมาณจำกัดที่ยอมให้มีปนได้  เช่น  พืช  (Vegetation),  อนุภาคอ่อน          (Soft
                   ่
               particles), ก้อนดินเหนียว (Clay lumps) และเศษดินเหนียวที่ติดอยู่ตามผิวของมวลรวมหยาบ  ความสะอาด

               ของมวลรวมอาจตรวจด้วยสายตาได้    แต่ในหลักการควรพิสูจน์ด้วย  วิธีล้างผ่านตะแกรง  (Washed  Sieve

               Analysis)  ทำการทดสอบ "ทรายสมมูล" (Sand - Equivalent test) ซึ่งเป็นการทดสอบหาสัดส่วนระหว่าง
               ปริมาณ สารที่ก่อความเสียหายหรือวัสดุพวกฝุ่นดินเหนียว กับปริมาณมวลรวมที่ผ่านตะแกรง เบอร์ 4   ในเรื่อง

                                       ี่
               ของความแห้งนั้น เป็นเรื่องเกยวกับปริมาณความชื้นของมวลรวม (Moisture Content, mc.) ที่ยอมให้สำหรับ
               การใช้ผสมกับวัสดุบิทูมินัสแต่ละชนิด  สำหรับการผสมแบบ  Hot    mix    มวลรวมต้องผ่านเตาอบจึงแห้งสนิท

               สำหรับการผสมกับวัสดุบิทูมินัสพวกคัทแบค (Cutback) กำหนดให้  ความชื้นน้อยกว่า 2 %   สำหรับการผสม

               กับวัสดุบิทูมินัสพวกอีมัลชั่น (Emulsion) กำหนดให้ความชื้นน้อยกว่า 5 %
                              1.3.5 การดูดซึม   (Absorption)

                                            ความสามารถในการดูดซึมแอสฟัลต์ขึ้นอยู่กับความพรุนของมวลรวม
               (Porosity)โดยปกติจะใช้มวลรวมที่มีความพรุนพอเหมาะ    คือ  ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป  ถ้าความพรุนน้อย

               เกินไปก็จะดูดซึมแอสฟัลต์ได้น้อย    มีผลทำให้การยึดเกาะระหว่างมวลรวมและวัสดุบิทูมินัสลดลงและอาจเกิด

               แอสฟัลต์ส่วนเกินมากเสียจนผิวทางขาดเสถียรภาพ  (Instability  ถ้าใช้มวลรวมที่มีความพรุนมากก็จะต้องเพม
                                                                                                         ิ่
               ปริมาณแอสฟัลต์เป็นพิเศษ เพื่อชดเชยปริมาณที่ถูกมวลรวมดูดซึมเข้าไป  ถ้าไม่เพิ่มปริมาณแอสฟัลต์เข้าไป  ก็

               มีแนวโน้มว่าวัสดุผสมราดยางจะแห้งเกินไป มีผลทำให้การยึดเกาะระหว่างมวลรวมและวัสดุบิทูมินัสลดลง ปกติ

               จะไม่ใช้มวลรวมที่มีความพรุนมาก  นอกเสียจากว่ามวลรวมนั้นจะมคุณภาพและคุณสมบัติอย่างอื่นดีมาก  เช่น
                                                                       ี
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21