Page 18 - การดาดผิว
P. 18
2-5
1.5.1 ลำดับขนาดทึบ (Dense Gradation)
เมื่อมวลรวมทั้ง 3 ชนิดผสมกับเข้าด้วยสัดส่วนที่พอเหมาะ จนทำให้"
ช่องว่าง" (Voids)ในมวลรวมคลุกมีอยู่น้อยมาก หรืออธิบายให้ละเอียดว่า มีปริมาณมวลรวมละเอียดที่พอเหมาะ
ไปอุดช่องว่างที่เกิดจากมวลรวมหยาบอัดตัวกัน และมีปริมาณเชื้ออุดที่พอเหมาะไปอุดช่องว่างขนาดเล็กมากที่
เหลืออยู่ จนเหลือช่องว่างอยู่น้อยกว่า ทำให้มวลรวมคลุกมีความทึบสูง ลำดับขนาดทึบนี้จะให้ความแน่นมาก
ที่สุดเมื่อผสมเป็นวัสดุผสมสำหรับลาดยาง ปกติจะใช้ในบริเวณที่ต้องการความมั่นคงสูงสุด
1.5.2 ลำดับขนาดเปิด (Open Gradation)
เมื่อมวลรวมหยาบและมวลรวมละเอียดผสมกันแล้ว ปริมาณมวลรวม
ละเอียดมีอยู่ไม่พอที่จะเข้าไปอุดช่องว่างทั้งหมดได้ และเชื้ออุดก็มีปริมาณไม่เพียงพอเช่นกัน จึงเหลือช่องว่าง
ี
อยู่มาก มวลรวมคลุกมีความทึบต่ำ หรือมีความแน่น (Density) น้อย ลำดับขนาดเปิดจะไม่มีมวลรวมที่มขนาด
เล็กกว่าเบอร์ 80
1.5.3 ลำดับขนาดสม่ำเสมอ (Uniform Gradation)
ประกอบด้วยมวลรวมที่มีขนาดเดียวกันทั้งหมดโดยเฉลี่ย และมีขนาดเฉลี่ย
ของมวลรวมจะ "เล็ก" กว่า 1 นิ้ว ลำดับขนาดชนิดนี้นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในงานแต่งผิว (Surface-
Treatment) และการฉาบปิดผิวหน้า (Seal Coat) เช่น ใช้หินย่อยขนาด 1 นิ้ว, 3/4 นิ้ว, 1/2 นิ้ว, 3/8 นิ้ว ใน
งานแต่งผิว และขนาด 1/8 นิ้ว ในงานฉาบปิดผิวหน้า เป็นต้น
1.5.4 ลำดับขนาดแมคคาดัม (Macadam Gradation)
ประกอบด้วยมวลรวมที่มีขนาดเดียวกันทั้งหมด โดยเฉลี่ยเช่นเดียวกับลำดับขนาด
สม่ำเสมอแต่ต่างกัน ที่ขนาดเฉลี่ยของมวลรวมจะ "โตกว่า" 1 นิ้ว เช่น หินย่อยขนาด 2-1 นิ้ว (50-25 มม.) ที่
ใช้ในการก่อสร้างผิวทางแบบ "พีนีเทรชั่นแมคคาดัม" (Penetration Macadam)
2. วัสดุบิทูมินัสหรือเชื้อประสาน (Bituminus Material or Binder)
วัสดุบิทูมินัสหรือเชื้อประสานเป็นวัสดุชนิดที่สองที่ใช้ในการก่อสร้างถนนราดยาง ซึ่งแบ่งออกได้ 2
ชนิด ตามกำเนิดของมัน คือ
แอสฟัลต์ หรือยางมะตอย (Asphalt)
น้ำมันดิน (Tar)
ซึ่งทั้งสองชนิดมีส่วนประกอบหลักเหมือนกัน คือ สาร "บิทูเมน" แต่แอสฟัลต์มีปริมาณสารบิทูเมน
ประกอบอยู่มากกว่า ในบางตำราจึงเรียกแอสฟัลต์ว่า "บิทูเมน" บิทูเมนนั้นหมายถึง สารที่ประกอบด้วยโมเลกุล
2
พวกไฮโดรคาร์บอน (Hydrocabon) ที่ละลายในคาร์บอนไดซัลไฟด์ ( CS )
2.1 แอสฟัลต์ (Asphalt)
คือ เชื้อประสานสีน้ำตาลแก่ถึงสีดำ มีบิทูเมนเป็นส่วนประกอบหลัก เกิดขึ้นเองตาม
ธรรมชาติ หรือได้จากการกลั่นปิโตรเลี่ยมดิบ (Crude Petroleum)