Page 14 - ทางและสนามบิน
P. 14
1-5
2. คำนวณหาค่า G.R. ( grade rod ) ซึ่งเป็นค่าแตกต่างระหว่าง H.I. กับค่าระดับของแนวทาง
( grade line )
G.R. = H.I. - grade
3. อ่านค่าจากไม้ระดับซึ่งตั้งตรงหมุดที่ศูนย์กลางแนวทาง ค่าทได้บันทึกเป็นค่า rod
ี่
4. คำนวณหาค่าความลึกของดินตัดหรือความสูงของดินถม ได้จากนำค่า G.R. ลบด้วย ค่า rod
ความลึกของดินตัด ( หรือความสูงของดินถม ) = G.R. - rod
ถ้าเป็นช่วงดินตัดผลลัพธ์จะมีเครื่องหมายบวก
ถ้าเป็นช่วงดินถมผลลัพธ์จะมีเครื่องหมายลบ
5. นำค่าความลึกของดินตัดหรือความสูงของดินถมในข้อ 4. คูณด้วยค่า s ซึ่งเป็นค่าอัตราลาด
ด้านข้างของถนน s:1 ( แนวนอน : แนวตั้ง )
6. นำผลลัพธ์จากข้อ 5. บวกด้วยค่าครึ่งหนึ่งของความกว้างคันทาง ( b / 2 เมื่อคันทางกว้าง
เท่ากับ b ) ผลที่ได้จะเป็นค่าออฟเซทที่คำนวณได้จากแนวศูนย์กลางทาง
7. นำไม้ระดับไปลองตั้งใกล้กับระยะของออฟเซทที่คำนวณได้โดยข้อ 6. โดยพิจารณาดังนี้
7.1 ถ้าลาดของผิวลาดเอียงด้านข้างของถนนและลาดของพื้นดินเดิม เอียงสวนทางกันให้ตั้ง
ไม้ระดับไมถึงจุดออฟเซทที่คำนวณได้โดยเทียบจากจุดตั้งไม้ระดับที่ใช้คำนวณหาค่าออฟเซทค่านั้น
่
7.2 ถ้าลาดของผิวลาดเอียงด้านข้างของถนนและลาดของพื้นดินเดิม เอียงไปทางเดียวกันให้
ตั้งไม้ระดับเลยจุดออฟเซทที่คำนวณได้โดยเทียบจากจุดตั้งไม้ระดับที่ใช้คำนวณหาค่าออฟเซทเท่านั้น
8. เมื่อลองตั้งไม้ระดับที่ต่ำแหน่งใดให้วัดระยะตามแนวราบจากจุดศูนย์กลางทางไปยังจุดที่ตั้งไม ้
ระดับนั้น แล้วส่องกล้องอ่านค่าจากไม้ระดับเพื่อนำค่ามาคำนวณหาระยะของออฟเซทตามวิธีการตั้งแต่ข้อ 1.
้
ั
ถึงขอ 6. ถ้าระยะตามแนวราบจากจุดศูนย์กลางทางถึงตำแหน่งที่ตั้งไม้ระดับเท่ากบออฟเซทที่คำนวณได้ของ
ตำแหน่งนั้น แสดงว่าตำแหน่งที่ตั้งไม้ระดับนั้นเป็นตำแหน่งของหมุดขอบลาดที่ถูกต้อง
9. ถ้าระยะตามแนวราบของตำแหน่งตั้งไม้ระดับซึ่งวัดจากจุดศูนย์กลางทางยังไม่เท่ากับออฟเซทที่
คำนวณได้ให้เลื่อนไม้ระดับไปตำแหน่งอื่น โดยพิจารณาการเลื่อนตำแหน่งตามหลักการในข้อ 7.กระทั่งได้
ู
ตำแหน่งของหมุดขอบลาดที่ถกต้อง