Page 36 - การดาดผิว
P. 36
4-6
3.1 การฉาบปิดหน้า (Seal Coat)
ั
คือ การแต่งผิวหน้าของผิวทางราดยางเดิม โดยการราดวัสดุบิทูมินัสในอตรา 0.1-0.2
ั
แกลลอน/ตร.หลา แล้วสาดทับด้วยหินเกล็ดขนาด 1/8 นิ้ว ในอตรา 8-15 ปอนด์/ตร.หลา เพอปิดผิวที่
ื่
ขรุขระของผิวทางราดยางบางชนิดให้แน่นสนิทเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อ
3.1.1 ปิดผิวหน้าถนนกันน้ำซึม (ในกรณีผิวทางเดิมใช้มวลรวมคลุกลำดับขนาดเปิด)
(Open Gradation)
3.1.2 ปรับปรุงผิวทางให้สดใส
3.1.3 เพิ่มความต้านทานการเสียดสี
3.1.4 ทำให้เกิดสีที่เห็นชัดในเวลากลางคืน
3.2 Fog Seal
คือการแต่งผิวหน้าของผิวทางราดยางเดิมที่มีรอยแตกแยกขนาดเล็กมาก (Hair
่
Cracks) หรือผิวทางที่เริ่มเสื่อมสภาพด้านความหยุ่นตัว โดยการฉีดพนวัสดุบิทูมินัสบาง ๆ ลงเคลือบคลุมผิว
ื่
ั
ทางเดิมเพอช่วยยืดอายุผิวทาง,อดรอยแตกขนาดเล็กและกันน้ำซึม นิยมใช้ SS-1 ผสมน้ำเท่าตัวอตราราดยาง
ุ
0.05 แกลลอน/ตร.หลา (0.23 ลิตร/ตร.ม.)
3.3 Slurry Seal
ั
คือการนำเอาอมัลซีไฟด์แอสฟลท์ชนิดแตกตัวช้า (SS-K หรือ SS-KH) มาผสมกบมวล
ี
ั
รวมขนาดเล็กแล้วปูราด (Pave) ลงบนผิวทางราดยางเดิมที่ต้องการการเแต่งผิว (ส่วนผสมสเลอรี่ซีลชนิดที่ 4
ใช้ในการแต่งผิวแทนการแต่งผิวแบบสองชั้น -Double Surface Treatment ) การผสมสามารถ กระทำได้ใน
รถผสมสเลอรี่ซีล (Slurry Seal Machine), รถขน-ผสมคอนกรีต (Transit - mix concrete truck) หรือแม้ใน
เครื่องผสมปูน (Plaster or concrete Mixer) จุดเด่นของรถผสมสเลอรี่ซีล คือมีที่เก็บส่วนผสมอยู่ในตัว,ผสม
ได้ด้วยตัวเอง, และมีเครื่องปูราด (Spreader box) ติดอยู่ สำหรับรถขน-ผสมคอนกรีตเด่นที่มีความจุสูง ส่วน
เครื่องผสมปูนเหมาะกับงานขนาดเล็ก ๆ เท่านั้น
3.3.1 การผสมสเลอรี่ซีล
ิ
จะต้องใช้ความระมัดระวังและเอาใจใส่การผสมเป็นพเศษ เริ่มโดยการใส่
น้ำลงไปแล้วเริ่มเดินเครื่องผสม อนดับสองใส่มวลรวมตามปริมาณและลำดับขนาดที่กำหนดลงไป และสุดท้าย
ั
จึงใส่อิมลซิไฟด์แอสฟัลท์ลงไป การใส่ส่วนผสมต่าง ๆ ต้องทำอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ ระวังไม่ให้เกิดการจับตัว
ั
เป็นก้อน
3.3.2 การควบคุมการผสมสเลอรี่ซีล
ต้องทำการผสมจนได้วัสดุที่เป็นเนื้อเดียวกัน (Homogeneous) สังเกตุได้
จากการที่ทุก ๆ อนุภาคของมวลรวมถูกเคลือบจนหมด ควบคุมความข้นเหลวให้พอเหมาะ ประมาณให้
เหลวพอที่จะเทให้ไหลได้ง่ายสามารถปรับความข้นเหลวได้โดยใช้น้ำเติมลงไปแต่ต้องระวังไม่ให้ อีมัลซิไฟด์แอส
ื่
ั
ฟลท์แตกตัวหรือจับกันเป็นก้อน ถ้าการเติมน้ำทำให้เกิดก้อนขึ้นให้เติมสารเคมีผสมเพมเพอหน่วงเวลาแตกตัว
ิ่
ไว้ได้แก่ ไฮเดรทไลม์ (Hydrated Lime) หรือปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ (Portland Cement) ปริมาณที่ใช้
ประมาณ 0.5 - 1.0 % ของน้ำหนักหินแห้งที่ใช้ถ้าการผสมทำให้เกิดการแตกตัวเสียก่อนแล้วการเติมน้ำก็ไม่