Page 38 - การดาดผิว
P. 38
4-8
ชนิดที่ 2 เป็นสเลอรี่ซีลชนิดที่มีความละเอยดมากพอที่จะลงไปอดรอยแตก ขนาดใหญ่กว่า
ุ
ี
ชนิดที่ 1 เหมาะสำหรับงาน
- ฉาบปิดหน้าผิวทางที่ขรุขระปานกลาง เช่น พีนีเทรชั่นแมคคาดัม หรือ
เซอร์เพสทรีตเมนต์
- ใช้แทนการแต่งผิวชั้นเดียว (Single Surface Treatment)
ชนิดที่ 3 เป็นสเลอรี่ซีลที่มีผิวค่อนข้างหยาบ สามารถอดรอยหินหลุดได้ดี ใช้ปรับระดับ
ุ
ผิวเดิมได้เล็กน้อย เหมาะสำหรับงาน
- ฉาบปิดหน้าผิวทางเดิมที่ขรุขระมาก
- ฉาบเป็นชั้นแรกหรือชั้นที่สองเมื่อต้องแต่งผิวแบบสเลอรี่ซีล หลายชั้น
- ใช้ฉาบผิวเพื่อแก้จุดสูงกลางถนน (Crown Slope) ที่ผิดไปเล็กน้อย
- ใช้ฉาบผิวทางแบบบิทูมินัสคอนกรีตที่เกิดการกระจุย (Ravelling)
ุ
ชนิดที่ 4 เป็นสเลอรี่ซีลที่หยาบที่สุด ใช้อดรอยหินคลุกได้ดี ปรับระดับผิวทางเดิมได้ดี
เหมาะสำหรับงาน
- แต่งผิวทางแบบบิทูมินัสคอนกรีตที่เสียหายหรือหมดสภาพ
- ใช้แทนการแต่งผิว สองชั้น (Double Surface Treatment)
3.3.5 ลำดับชั้นการปูราดสเลอรี่ซีล
3.3.5.1 กวาดและปรับผิวทางเดิม ถ้าผิวทางเดิมชำรุดมากเป็นหลุมลึกให้ซ่อมปะ
แบบลึก (Deep Patching) ถ้าชำรุดตื้น ๆ เป็นบริเวณกว้างหรือไม่ได้ระดับให้ซ่อมปะผิว (Skin
Patching) เสร็จแล้วกวาดฝุ่นและหินที่หลุดลอยออกให้หมดด้วยเครื่องกวาดฝุ่น โดยผิวทางเดิมไม่เสียหาย
ื่
ิ่
3.3.5.2 พรมน้ำ หรือฉาบก่อนเพมผิวถ้าจำเป็น เพอให้มีการยึดเกาะที่ดีระหว่าง
ผิวทางเดิม กับสเลอรี่ซีลควรมีการพรมน้ำบาง ๆ ลงบนผิวทางเดิมก่อนปูราดสเลอรี่ซีล โดยปกติจะมีการ
ื่
ติดตั้งเครื่องฉีดน้ำเป็นฝอย-ละออง อยู่ที่หน้ารถปูราดอยู่แล้วเพอฉีดน้ำให้ผิวทางเปียกทั่วถึงเช่น Fog Spray
Bar ถ้าต้องปูราดสเลอรี่ซีลลงบนผิวทางเดิมที่ใช้ในหินที่มีความพรุนสูงและแห้งมาก(Dry Porous Surface)
หรือผิวทางคอนกรีตก็ควรทำแทคโคทโดยใช้ SS-1 ผสมน้ำเท่าตัวฉีดพนด้วยอตรา 0.12-0.15 แกลลอน/
ั
่
ตร.หลา
3.3.5.3 การปูราดสเลอรี่ซีล - โดยใช้เครื่องฉาบ - ปูราด (Spreader) ตาม
รายละเอียดในข้อการปูราดสเลอรี่ซีล (3.3.3)
3.3.5.4 การบดทับ สเลอรี่ซีลชนิดที่ 1, 2 และ 3 ไม่ต้องบดทับ เว้นแต่ปูราดใน
บริเวณกว้างมากเช่น ลานจอดรถหรือสนามบิน ส่วนสเลอรี่ซีลชนิดที่ 4 ต้องทำการบดทับด้วยรถบดด้วยรถ
บดล้อยาง 5 ตัน ชนิดยางเรียบ ความดันลมยาง 345 กิโลปาสคาล หรือ 3.5 กก./ตร.ซม. หรือ 50 ปอนด์/
ตร.นิ้ว บดทับไม่น้อยกว่า 5 เที่ยว ด้วยความเร็ว 5-8 กม./ชม.
3.3.5.5 การบ่ม - ให้บ่มสเลอรี่ซีลไว้ระยะเวลาหนึ่งก่อนเปิดการจราจร ถ้ามีความ
จำเป็นอาจใช้ทราย หรือหินฝุ่นสาดหน้าเพอให้รถยนต์ผ่านได้ เช่น ทางแยกหรือทางเชื่อม ให้ตรวจสอบการ
ื่
แตกตัวของอมัลซิไฟด์แอสฟลท์ โดยสังเกตุการเปลี่ยนสีของวัสดุผสมจากสีน้ำตาล เป็นสีดำ และตรวจว่า
ี
ั