Page 58 - การวางแผนการก่อสร้าง
P. 58
5-2
2. ระบบ CPM และ PERT
2.1 ที่มาของระบบ CPM และ PERT
จากจุดอ่อนของระบบ Bar Chart ดังกล่าวนี้ จึงท าให้มีผู้พยายามคนคิดระบบอื่น ๆ ขึ้นเพื่อให้ได้
้
วิธีการวางแผนและการควบคุมงานที่มีประสิทธิภาพ จนกระทั่งปี พ.ศ.2500 ฝ่ายวางแผนงานของ บริษัท Du
Pont และ บริษัท Remington Rand แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ค้นคิดวิธีการวางแผนและก าหนดเวลาท างานขึ้น
ใหม่ ให้ชื่อว่า " CRITICAL PATH METHOD " (หรือเรียกชื่อย่อว่า CPM) ขึ้นทดลองใช้กับงานก่อสร้างของ
บริษัทและในช่วงเวลาเดียวกันนี้ และโครงการเฉพาะกิจของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ได้คิดค้นระบบการ
วางแผนงานขึ้นใช้ส าหรับงานวางแผน และการควบคุมการสร้างขีปนาวุธส าหรับกองทัพ และเรียกระบบการ
วางแผนนี้ว่า PERT ย่อมาจากค าเต็มว่า Program Evaluation and Review Technique ทั้ง 2 ระบบนี้ ใน
เวลาต่อมา “ ได้รับการทดสอบ และพสูจน์ให้เห็นว่าเป็นวิธีการที่สามารถใช้ควบคุม และติดตามความคืบหน้า
ิ
ื่
ของงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ” หน่วยงานส่วนอนจึงน ามาศึกษาและน ามาใช้กันแพร่หลายตั้งแต่นั้นมา
สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาหลายแห่งที่ให้การศึกษาด้านการบริหาร ได้จัดเป็นวิชาหนึ่งในหลักสูตรการเรียน
2.2 ลักษณะของ ระบบ CPM และ PERT
ทั้งระบบ CPM และ PERT มีลักษณะเป็นโครงข่าย ซึ่งประกอบขึ้นจากหน่วยงานย่อยซึ่งแสดง
ั
สัญลักษณ์ด้วยเส้นและเครื่องหมาย เพอแสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องและสัมพนธ์กันของหน่วยงาน แสดงให้
ื่
เห็นได้ละเอียดชัดเจนกว่า Bar Chart ส่วนข้อแตกต่างที่เป็นส่วนส าคัญของ PERT และ CPM อยู่ที่ PERT
ื่
จะก าหนดเวลาท างานของหน่วยงานไว้ไม่แน่นอนตายตัว เพอให้ยืดหยุ่นได้บ้าง “ ระบบ PERT จึงมักน ามาใช้
กับโครงการใหม่ ๆ ซึ่งยังไม่เคยปฏิบัติกันมาก่อน และยังไม่ทราบถึงสถิติเวลาท างานที่แน่นอน ” ส่วนระบบ
CPMจะก าหนดเวลาท างานของหน่วยงานต่าง ๆ ไว้แน่นอน และนิยมใช้กับโครงการที่เคยปฏิบัติกันมาแล้ว
เช่น การจัดงานก่อสร้าง ซึ่งถึงแม้ว่าอาคารแต่ละหลังจะมีรูปลักษณะไม่เหมือนกัน แต่เมื่อแยกเป็นหน่วยงาน
ย่อยแล้ว จะมีลักษณะการท างานคล้ายคลึงกัน เช่น หน่วยงานคอนกรีต หรือ หน่วยงานผนังอิฐก่อ เป็นต้น
2.3 การใช้ ระบบ CPM และ PERT
แม้ว่า ระบบ CPM และ PERT จะเป็นระบบที่มีประโยชน์มาก อย่างไรก็ตาม ทั้งระบบ CPM
ั
และ PERT ยังมีส่วนประกอบและการคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับความสัมพนธ์ของหน่วยงาน ตลอดจน
วิธีการเขียนและการค านวณหาค่าเวลาท างานต่าง ๆ ยังค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อน จ าเป็นต้องได้ผู้จัดท าที่
ศึกษาทางด้านการวางแผนงานระบบนี้โดยเฉพาะ มีความช านาญและมีประสบการณ์ของงานก่อสร้างเป็นอย่าง
ดี จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ยังไม่มีผู้น าเอาระบบ CPM มาใช้กันมากนัก โดยเฉพาะกับการจัดงานก่อสร้างในประเทศ
ไทย ทั้งเมื่อน ามาใช้แล้วยังต้องอาศัยการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง โครงงานที่ใช้การวางแผนระบบ CPM จึง
ต้องการผู้ท างานที่ผ่านการศึกษาทางด้านนี้มาพอสมควร จึงจะเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เช่นเดียวกับบริษัทที่
จัดหาเครื่องมือก่อสร้างที่มีคุณภาพอย่างดีเยี่ยม สามารถใช้งานได้กว้างขวาง แต่ถ้าบริษัทไม่มีผู้มีความรู้ความ
ช านาญที่จะใช้เครื่องมือนั้นได้ เครื่องมือที่วิเศษชิ้นนี้ ก็ไม่ท าประโยชน์ได้คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งก็เช่นเดียวกัน
กับ CPM เพราะประโยชน์ของการใช้แผนงานระบบ CPM อยู่ที่การน าไปใช้จริงในงาน ถ้าจัดวางแผนงานท าผัง
งาน CPMขึ้นแล้ว แต่ไม่มีการน าไปใช้ในการควบคุม และติดตามความคืบหน้าของงานอย่างใกล้ชิด แผนงาน
CPM ที่ท าขึ้นไว้จะมีประโยชน์เพียงแค่กระดาษประดับฝาผนังเท่านั้นเอง