Page 56 - การดาดผิว
P. 56
4 - 10
แอสฟัลต์อีมัลชั่นต้องไม่มีการแยกตัวระหว่างแอสฟัลต์อีมัลชั่นและส่วนละเอียดออกจากหินหยาบ ต้องไม่มีหิน
หยาบตกอยู่ส่วนล่างของกองวัสดุผสม ถ้าในกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจะต้องตักวัสดุผสมนี้ออกจากผิวทาง
3.2.7 ต้องไม่มีรอยขีด เช่นอาจเกิดจากหินก้อนใหญ่เกินไปปรากฎให้เก็บบนผิวทางที่ฉาบ
้
เรียบร้อยแล้ว ถ้าเกิดกรณีเช่นนี้ต้องทำการตกแต่ง และแกไขให้เรียบร้อย ผู้ควบคุมงานอาจสั่งให้ใช้ตะแกรง
ร่อนมวลรวมก่อนนำมาผสม
3.2.8 ข้อกำหนดของรอยต่อ รอยต่อตามยาวหรือตามขวาง รอยต่อตามขวางต้องไม่เป็นสัน
นูนสูงเกินไปหรือมองเห็นชัดเจนดูไม่เรียบร้อย ถ้าเกิดกรณีดังกล่าวเช่นนี้จำเป็นต้องใช้กระสอบลากหรือเครื่อง
ลากชนิดอื่น ต้องได้รับความเห็นจากผู้ควบคุมงานเสียก่อน
3.2.9 ข้อกำหนดของการฉาบด้วยมือ ในกรณีเครื่องฉาบทำการฉาบไม่ได้ เพราะสถานที่
จำกัด การใช้เครื่องฉาบด้วยมือต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ควบคุมงานเสียก่อน
3.2.10 ในการฉาบผิวสเลอร์รี่ซีล ชนิดที่ 2 หรือการฉาบผิวสเลอร์รี่ซีลชนิดที่ 3 ครั้งที่ 1 แล้ว
ให้บดทับด้วยรถบดล้อยางชนิดขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง เต็มผิวหน้าไม่น้อยกว่า 5 เที่ยวโดยเริ่มบดทับได้เมื่อไม่ม ี
ส่วนผสมสเลอร์รี่ติดล้อรถบด แต่ต้องไม่ข้ามวัน
สำหรับการฉาบผิวสเลอร์รี่ซีล ชนิดที่ 3 ครั้งที่ 2 นั้น ให้ดำเนินการฉาบผิวโดยเร็วที่สุดเท่าที่
จะสามารถทำได้ แต่ต้องไม่นานกว่า 4 สัปดาห์ หลังจากการฉาบผิวครั้งที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว การฉาบผิว
ครั้งที่ 2 นี้ โดยปกติไม่ต้องบดทับ
การบ่มให้บ่มผิวสเลอร์รี่ซีลไว้ระยะเวลาหนึ่งก่อนเปิดให้การจราจรผ่านจนกว่าผิวสเลอร์รี่ซีล
จะแตกตัวโดยสมบูรณ์ แล้วจึงเปิดให้การจราจรผ่าน บริเวณที่มี ความจำเป็นต้องให้การจราจรผ่านได้ก่อน เช่น
ทางแยก ทางเชื่อม ก็อาจใช้ทรายหรือฝุ่นสาดทับได้
ให้ตรวจสอบการแตกตัวของแอสฟัลต์อีมัลชั่นในสเลอร์รี่ซีล โดยดูการ เปลี่ยนสีของ
ส่วนผสมจากสีน้ำตาลเป็นสีดำและปราศจากน้ำในส่วนผสมหนึ่ง สามารถตรวจสอบได้โดยใช้กระดาษซับน้ำบน
ผิวสเลอร์รี่ซีล ถ้าไม่มีน้ำเหลือปรากฎให้เปิดการจราจรได้โดยปกติไม่ควรเกิน 3 ชั่วโมง