Page 42 - การระบายน้ำ
P. 42
4-4
็
5. ความเรวในการไหลของน ้า
ี
ี่
้
ี่
ื
้
้
็
มคูเปนจานวนมากทมลาดดานขางและพ้นทหนาตัดของการไหลของน้าต่างกัน ซึ่งมีอัตราการไหล
ี
ี่
ออกของน้าอย่างเดียวกันบนลาดตามยาวทเหมอนกัน แต่จะมความเรวในการไหลของน้าในคูแต่ละคูแตกต่าง
ื
ี
็
ิ
็
ี่
ื่
ิ
้
ี
กันไป เนองจากความเรวในการไหลทมากเกนไป จะทาใ หเกดการกัดเซาะขึ้นในคู และทาความเสยหายใหแก่
้
ี่
็
้
ั
็
้
ี
ี
้
้
้
สิ่งก่อสรางขางเคียงขึ้นได ฉะนั้น ความเรวน้จะตองถูกรกษาไวใหเหมาะภายในขดทกาหนดอันหนึ่ง ความเรว
้
้
่
้
ี่
ี่
ี่
มากทสุดทพอยอมทนไดส่วนมากขึ้นอยูกับลักษณะของมวลดิน และวัสดุทใชดาดคูนั้น
็
ี่
ลักษณะมวลดินและสิ่งดาดผิวตามแบบทใหความเรวมากทสุด “V” เปนฟุตต่อวินาท ทพอยอมทนได ้
ี
็
้
ี่
ี่
้
้
ในการไหลของน้า ไดกาหนดไวแลวในตารางท 4.1
ี่
้
ี่
็
ี่
สาหรบอัตราการไหลของน้าทกาหนดใหและลาดตามยาวทกาหนดให ความเรวในการไหลของน้า
ั
้
้
อาจถูกควบคุมไดโดยรปรางของคู ตามลักษณะลาดดานขางของคูนั้น ๆ โดยทั่วไปแลวคูทม รปหนาตัดทกวาง
ี่
้
้
ี่
้
ู
่
ี
้
้
ู
้
และตื้นเปนสิ่งพึ่งประสงค์
็
่
ิ
6. การออกแบบคูโดยใชสมการของแมนนง (DITCH DESIGN USING
้
MANNING’S EQUATION)
6.1 หาอัตราการไหลของน้า “ Q ” เปน ลูกบาศกฟุต/วินาท จากพ้นทซึ่งก่อใหเกดการไหลของน้ามา
์
ิ
ี
้
ื
็
ี่
ิ
้
่
์
้
ู
ี่
สูคูนั้น ถาปร มาณของน้ามากกว่า 60ลูกบาศกฟุต / วินาท ควรใชคูระบายน้ารปสเหลย มคางหมู
ี
ี่
(TRAPEZOIDAL DICTH)
6.2 หาลาด (S) เปนฟุต/ฟุต ของคูจากแบบลาดตามยาวของพื้นท ี่
็
็
ี่
ี่
ิ
ื
6.3 เลอกสัมประสิทธความหน่วงน้า (N) และความเรวของการไหลของน้าทมากทสุด
(V ) ทพอยอมทนไดเปนฟุต/วินาท สาหรบสภาพมวลดินในทซึ่งคูจะถูกสรางขึ้นนั้น (ตารางท 4 -1)
ี่
ี่
ี
ี่
้
็
ั
้
max
ื
ู
ื
้
ี่
้
ู
6.4 พิจารณาแบบของคูทใช คือ คูรปสามเหลยมดานไม่เหมอน คูรปสามเหลยมดานเหมอน
้
ี่
ี่
ี่
ู
ี่
ื
หรอคูรปสเหลยมคางหมู
็
้
้
้
6.5 การใชลาด (S) จากขอ 6.2 ขางตน และสัมประสิทธความหน่วงน้า (N) ความเรวของการไหลจาก
้
ิ
้
ู
ี
้
ิ
้
ื
ี่
ขอ 6.3 ขางบนไปหารศมไฮดรอลิกทแทจรงของคู ซึ่งหาไดจากโนโมกราฟในรป 4.1 (หรออาจค านวณหาได ้
ั
้
๊
้
้
้
จากสูตรแมนนิ่ง จาก Tm.5 - 330) โดยใชเสนตรงลากจากเสนแกนมาตราส่วนของลาด (S) ไปยังเสนแกน
้
มาตราส่วนสัมประสิทธความหน่วงน้า (N) เสนตรงน้จะตัดกับเสนไม่มมาตราส่วน เรยกว่า เสนหมุน
ี
้
้
ี
ี
ิ
้
ี่
ี
้
ี่
้
(TURNING LINE) และจุดทตัดกันนั้นจะเรยกว่าจุดหมุน (TURNING POINT) เสนตรงเสนทสองลากจากเสน
้
แกนมาตราส่วนความเรวของการไหล (V) ผ่าน จุดหมุนไปยังเสนแกนมาตราส่วนรศมไฮดรอลิก (R) แลวอ่าน
็
ั
้
ี
้
้
ั
ี
ค่าโดยตรงจากเสนแกนมาตราส่วนรศมไฮดรอลิก
ื
้
ี่
ี่
6.6 นาค่าทไดจาก 6.5 ไปพิจารณารวมกับตารางในผนวก จ. ทายบทเรยน เพอหาพ้นทหนาตัด (A)
้
ื่
้
่
ี
ี่
้
ี
ี
ี่
้
ั
และความลึก (D) ทใชโดยใหมค่ารศมไฮดรอลิก (R) ใกลเคียงกับค่ารศมไฮดรอลิก ทค านวณหาไวในขั้นท 6.5
้
ี
้
ี่
ั
้
้
ขางตน