Page 90 - Way&Airfield
P. 90
4-45
12.3.3 การควบคุมคุณภาพขณะก่อสร้าง
การก่อสร้างชั้นผิวทางวัสดุมวลรวมให้ก่อสร้างทางเป็นชั้น ๆ โดยให้มีความ
หนาหลังบดทับชั้นละไม่เกิน 150 มิลลิเมตร
ผู้รับจ้างอาจก่อสร้างชั้นผิวทางวัสดุมวลรวม ให้มีความหนาแต่ละชั้นเกินกว่า
150 มิลลิเมตร แต่ไม่เกิน 200 มิลลิเมตร ก็ได้ ทั้งนี้ต้องแสดงรายการเครื่องจักรและเครื่องมือที่เหมาะสม
แสดงวิธีการปฏิบัติงานและต้องก่อสร้างแปลงทดลองยาวประมาณ 200 - 500 เมตร เพื่อตรวจสอบ
คุณภาพหากพบว่าระหว่างการก่อสร้างเม็ดวัสดุที่ผิวหน้าของผิวทาง วัสดุมวลรวมหรือมีปัญหาเกี่ยวกับ
ความหนาแน่นของผิวทางส่วนบนและส่วนล่างไม่ได้ตามข้อกําหนด นายช่างผู้ควบคุมงานอาจ
พิจารณาระงับการก่อสร้างผิวทางวัสดุมวลรวมหนาชั้นละมากกว่า 150 มิลลิเมตร
นายช่างผู้ควบคุมงานจะตรวจสอบคุณภาพหลังจากการคลุกเคล้าแล้ว หากพบว่า
ตอนใดคุณภาพไม่ถูกต้องตามข้อกําหนดผู้รับจ้างต้องปรับปรุงแก้ไขจนได้วัสดุที่มีคุณภาพถูกต้อง
12.4 การตรวจสอบ
12.4.1 การตรวจสอบค่าระดับ
งานผิวทางวัสดุมวลรวมที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย จะต้องมีรูปร่างราบเรียบ
ตามแบบโดยเมื่อทําการตรวจสอบด้วยบรรทัดตรงยาว 3.00 เมตร ทั้งตามแนวขนาน และตั้งฉากกับแนว
ศูนย์กลางทางมีความแตกต่างได้ไม่เกิน 10 มิลลิเมตร และมีค่าระดับแตกต่างไปจากค่าระดับ ที่แสดงไว้ใน
แบบได้ไม่เกิน 15 มิลลิเมตร การตรวจสอบค่าระดับให้ทําทุกระยะ 25 เมตร หรือน้อยกว่า ตามที่นาย
ช่างผู้ควบคุมงานเห็นชอบตอนใดที่ผิดไปจากนี้ให้แก้ไขโดยการปาดออกหรือรื้อแล้วก่อสร้างใหม่
12.4.2 การทดสอบความแน่นของการบดทับ
งานผิวทางวัสดุมวลรวมจะต้องทําการบดทับให้แน่นสมํ่าเสมอตลอด ไม่ตํ่ากว่า
ร้อยละ 95 ของความแน่นแห้งสูงสุดที่ได้จากการทดลอง ตัวอย่างวัสดุมวลรวมเก็บจากหน้างานในสนาม
หลังจากคลุกเคล้าผสมและปูลงบนพื้นถนนแล้ว ตาม ทล.-ท. 108 “วิธีการทดลอง Compaction Test
แบบสูงกว่ามาตรฐาน”
การทดสอบความแน่นของการบดทับ ให้ดําเนินการทดสอบตาม ทล.-ท. 603
“วิธีทดลองการหาค่าความแน่นของวัสดุในสนามโดยใช้ทราย” ทุกระยะประมาณ 100 เมตร ต่อ 1 ช่อง
ทางจราจร หรือประมาณพื้นที่ 500 ตารางเมตร ต่อ 1 หลุมตัวอย่าง
12.5 การวัดปริมาณงานและการจ่ายค่างาน