Page 75 - การวางแผนการก่อสร้าง
P. 75
5-19
ตัวอย่างที่ 5.12 การหาสายงานวิกฤต
8
C
5 F
(5) (7)
9
0 3 10 16 21
A
1 3 D 6 G 7 J 8
(3)
0 (4) 10 (6) (5)
4 16 21
4 10
B E H
(4) 2 (6) 4 (4)
4 10
I
(8)
จากผังงานข้างบน ซึ่งหาค่าต่าง ๆ คือ ค่า ES EF LS และ LF ใน และ ใน เรียบร้อยแล้ว
ิ
ถ้าน ามาพจารณาแต่ละงานว่าเป็นงานวิกฤตหรือไม่ ตามกฎการหาสายงานวิกฤต หรือ เส้น CP ที่
กล่าวมาแล้ว จะพบว่า งาน B งาน E งาน G และงาน J เป็นงานวิกฤต เพราะเข้าตามกฎทั้ง 3 ข้อ ขีดเส้นคู่
ดังนั้น ในผังงานนี้ สายงานวิกฤต คือ งาน B, E, Dummy (4 - 6), G, และงาน J
7.3 ความส าคัญของสายงานวิกฤต
สิ่งที่การวางแผนระบบ CPM แตกต่างและชัดเจนเหนือกว่าการวางแผนระบบ Bar Chart คือ
การวางแผนระบบ CPM จะชี้ให้เห็นว่าโครงการทั้งหมดมีหน่วยงานใดที่ส าคัญมีสายงานใดที่ส าคัญ ซึ่งนี่คือที่มา
ของชื่อระบบนี้ที่เรียกว่า ระบบสายงานวิกฤต (Critical Path Method)
ถ้าย้อนกลับไปดูผังงานตัวอย่างการหาเส้น CP และสมมติว่าน าแผนงานออกไปปฏิบัติจริง และ
ปรากฏว่าหน่วยงาน I ต้องท างานเพมเป็น 10 วัน จึงจะเสร็จ แทนที่จะท า 8 วัน ตามก าหนด ผู้ควบคุมแผน
ิ่
จะตอบได้ทันทีว่าแม้หน่วยงาน I จะท างานช้ากว่าก าหนด แต่จ านวนวันท างานรวมของทั้งโครงการยังสามารถ
ท าได้เสร็จภายใน 21 วัน ตามเป้าหมาย เพราะเมื่อรวมเวลาท างานที่ต้องล่าช้าไปของ งาน I ในสายงานแล้ว
วันท างานรวมก็ยังไม่เกิน 21 วัน
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเจ้าของงานต้องการให้โครงการนี้เสร็จให้ได้ในเวลา 20 วัน หรือให้เร็วกว่า
้
ที่กาหนดไว้ 1 วัน ผู้วางแผนสามารถปรับปรุงแผนได้ทันทีว่า จะจัดท าได้หรือไม่ และควรจะแก หรือช่วยเร่งวัน
ท างานที่หน่วยงานใด เช่น อาจหาวิธีเร่งงานที่หน่วยงาน B, E, G หรือ J ให้เร็วกว่าก าหนดเดิมเพียง 1 วัน จะ
ได้เวลาท างานรวมของโครงการเหลือ 20 วัน