Page 89 - การวางแผน
P. 89
6-9
ิ่
็
้
ึ
้
งาน H(4-7) Dur.= 4 เรมตนทางานเมื่อ งาน E เสรจ งาน H ก็ขีดเสนทบจากช่อง 11-14
็
ิ่
้
งาน I(2-7) Dur.= 8 เรมตนท างานเมื่องาน B เสรจ งาน I จึงตีเสนทึบจากช่อง 5-12
้
ิ่
้
็
งาน J(7-8) Dur.= 5 เรมเมื่องาน F, G, H และ I เสรจ เมื่อพิจารณาดูงานทั้ง 4 แลว
สายงานที่มีเวลาการท างานมากที่สุด คือ สายงานของงาน G คือ สายงาน
ของงาน F = 15 งาน G = l6 งาน I = 12 ดังนั้น งาน J จึงเรมตนขีดเสนทึบ
้
ิ่
้
ที่ช่อง 17-21
้
่
้
์
เมื่อขีดเสนทึบเวลาท างานของแตละงานใหมีความสัมพันธกันดังในตารางที่ 6.7 แลว ก็พิจารณา
้
ิ
้
ื่
่
็
้
็
ี่
งานทเปนงานวิกฤต มาขีดเสนโยงลงมาใหตอเนองกัน ซึ่งจะเปนการตรวจสอบความผดพลาดในการ
ขีดเสนของงานต่าง ๆ ดวย
้
้
ี
ึ
ี
ขอสังเกต ในการขดเส้นทบใช้ค่า ES และ ค่า EF ใน □ ท่หาง และหัวลูกศรของแต่ละงาน
้
่
ี
ี
่
ี
่
ขดลงในช่องตารางเวลา เช่น งาน A ค่า ES ใน □ ทหางลกศร = 0 เรากเรมขดท่ ช่องท 1 และคา EF ใน
ี
็
ู
ี
ิ่
ึ
็
□ ท่หัวลูกศร = 3 กขดมาถง ช่องท่ 3
ี
ี
ี
5.4.4 พิจารณาเวลาลอยตัว (Float)
้
้
หลังจากไดจัดเวลาลงในตารางเวลาแลว เพื่อประมาณการช่วงระยะเวลาการทางาน
็
็
เช่นน้ จะพบความแตกต่างระหว่างเวลาเสรจงานเรวที่สุด (EF) และเวลาเสรจชาที่สุด (LF) ส าหรับงานที่ไม่
้
ี
็
ี
ื
ี่
็
สาคัญ คอ งานทไม่เปนงานวิกฤต เวลาทเกินเรยกว่า เวลาลอยตัว (Float) ซึ่งเวลาลอยตัวน้ไดคานวณหา
ี่
ี
้
้
มาแลวจากตารางค านวณ (Tabulation) ถางานย่อยใด มีเวลาลอยตัวรวม (TF) ก็จะขีดดวยเสนบางต่อจาก
้
้
้
ื่
เวลาการท างานของงานนั้นตามจ านวนที่ค านวณได ถาเปนค่า IF กาเครองหมาย x (กากะบาท) ไวดานขวา
้
้
้
้
็
ในวงเล็บ ค่า FF จะไดจากช่องที่เหลือของ TF หลังจากไดกาเครองหมาย x ของ IF แลว
้
้
้
ื่
็
์
ิ
้
้
้
้
ในเสนบางที่เปน Float IF เขียนสัญลักษณ x เมื่อดูจากตารางแลว ผูบรหารหรอผูควบคุม
ื
ื
ื่
ี
โครงการเหนเครองหมาย x น้ ก็จะเปนการเตอนไวว่าถางานใดตองทาล่าชาเขาเขต x แลว งานอื่นซึ่งทา
็
้
็
้
้
้
้
้
ี
่
้
ี่
ี่
ตอจากงานน้จะมีผลกระทบดวย สวนขอบเขตของเวลาทแสดงทเขยนเวลาลอยตัว Float ทเหลอไว ไม่มี
ี
ี่
ื
่
้
เครองหมายใด ๆ ก็ใหถือเปน Free Float
้
ื่
็
จากตัวอย่างในตารางที่ 6.7 เมื่อพิจารณาคาลอยตัว (Float) แลวน ามาใส่ลงในตาราง
้
่
งานก่อสราง (Construction Schedule) จะไดตารางดังที่แสดงในตารางที่ 6.8
้
้