Page 49 - การดาดผิว
P. 49

-
                                                          4
                                                               19
                      ข้อเสียของผิวทางชนิดนี้ คือ  มีอนตรายจากหินกระเด็นเมื่อใช้ความเร็วสูง, มีผิวหน้าที่หยาบและ
                                                    ั
               น้ำซึมได้ง่ายจึงมักต้องการ การแต่งผิวเสมอ จะต้องมีแหล่งมวลรวมประเภทหินย่อยอยู่ใกล้แหล่งงานและต้อง
               ก่อสร้างบนชั้นรากที่ไม่ใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติเป็นพลาสติก  และจะต้องแน่นมาก         เพราะถ้าเป็นวัสดุ

               พลาสติคหรือฝุ่นดินเหนียว เพื่อเปิดการจราจรจะถูกอัดจนทะลักขึ้นมาที่ผิวหน้าได้ง่าย  มักจะต้องมีการรองพน
                                                                                                        ื้
                                                ี
               ก่อนเรียงหินชั้นแรกด้วยมวลรวมละเอยดหรือทรายหนา 3-4 นิ้วเสมอ  แม้จะมีข้อเสียอยู่หลายประการ แต่
               ข้อเสียเหล่านี้ก็ไม่ค่อยมีผลกระทบที่รุนแรงต่อการใช้งานทางทหารเท่าใดนัก

                                     4.2.1 วัสดุบิทูมินัสที่ใช้ในการลงผิวพีนีเทรชั่นแมคคาดัม

                                     วัสดุบิทูมินัสที่เหมาะสม ที่นิยมใช้มากที่สุด คือ แอสฟัลต์ซีเมนต์  เกรด 85-100
                                     4.2.2 มวลรวมที่ใช้ในการลงผิวแบบพีนีเทรชั่นแมคคาดัม

                                     มวลรวมที่ใช้มี 3 ขนาด และมีขื่อเรียกมวลรวมที่ใช้ในแต่ละชั้นโดยเฉพาะ คือ
                                     4.2.2.1  มวลรวมชั้นที่  หนึ่ง  (Macadum  Aggregate)    เป็นมวลรวมหยาบลำดับ

               ขนาดสม่ำเสมอ
                                     4.2.2.2 มวลรวมชั้นที่ สอง (Keystone หรือ Intermediate Aggregate) เป็นมวล

               รวมลำดับขนาดสม่ำเสมอที่มีขนาดเล็กกว่ามวลรวมชั้นที่หนึ่ง

                                     4.2.2.3  มวลรวมชั้นที่  สาม    (Chockestone)  เป็นมวลรวมละเอียดลำดับขนาด
               สม่ำเสมอที่มีขนาดเล็กกว่าชั้นที่ 2

                                                              ั
                         ขนาดของมวลรวมที่ใช้ในแต่ละชั้นจะมีส่วนสัมพนธ์กันคือมวลรวมชั้นที่หนึ่ง เมื่อถูกบดอัดจนขัดตัวกัน
               แน่นจะเกิดช่องว่างที่มีขนาดพอเหมาะสำหรับมวลรวมชั้นที่สองจะลงไปอดได้      พอเหมาะ แล้วช่องว่างที่
                                                                             ุ
               เกิดขึ้นใหม่และที่เหลืออยู่จะถูกอดเป็นครั้งสุดท้ายด้วยมวลรวมขนาดเล็กชั้น ที่สาม จะเห็นได้ว่ามวลรวม ชั้นที่
                                          ุ
               หนึ่งเป็นหลักสำหรับมวลรวมชั้นต่อไป และขนาดของมวลรวมชั้น ที่หนึ่งกจะมีขนาดโตสุดไม่เกินความหนาของ
                                                                            ็
               ผิวทางที่ออกแบบไว้และต้องสัมพันธ์กับลำดับขนาดที่เหมาะสมสำหรับผิวทางชนิดนี้ด้วย
                                                         ิ
                                     4.2.3 ลำดับชั้นการลงผวพีนีเทรชั่นแมคคาดัม (Sequence of Operation)
                                     การก่อสร้างผิวทางแบบนี้ต้องก่อสร้างในขณะอากาศดีไม่มีฝนตก  อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า
               60 ํ F และชั้นรากต้องแห้งสนิท มีลำดับขั้นตอน ดังนี้.-

                                     4.2.3.1 ตรวจสอบและปรับปรุงชั้นราก

                                     4.2.3.2 ฉาบก่อนลงผิวหรือฉาบก่อนเพิ่มผิวแล้วบ่ม
                                     4.2.3.3 โรย - มวลรวมชั้นที่หนึ่ง (แมคคาดัมอากรีเกต)

                                     4.2.3.4 บดทับ
                                     4.2.3.5 ราดยางชั้นที่หนึ่ง

                                     4.2.3.6 โรย มวลรวมชั้นที่สอง (คี-สโตน)

                                     4.2.3.7 ลากเกลี่ยและบดทับ
                                     4.2.3.8 ราดยางครั้งที่สอง

                                     4.2.3.9 โรยมวลรวมชั้นที่สาม (โชคสโตน)
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54