Page 47 - สะพานเครื่องหนุนลอย
P. 47
3-14
14.4.1 ไม้หมอนกันล้อ
สำหรับแพที่บรรทุกรถคันเดียวให้ใช้ไม้หมอนกันล้อที่ล้อหน้า และล้อหลัง
สำหรับรถที่มีรถพวงมาด้วย ให้วางไม้หมอนไว้ที่ล้อหน้าและล้อหลังของรถลากจูงเท่านั้น ถ้าบรรทุกรถสองคัน
่
หรือมากกว่าให้วางไม้หมอนกันล้อที่ล้อหน้าของรถคนหน้าและที่ล้อหลังของรถคันหลัง (ถ้าต้องการให้แน่นอนก็
ั
ให้วางหมอนกันล้อทุก ๆ คัน)
14.4.2 การเคลื่อนที่จากฝั่ง
เมื่อพนักงานสายหนวดพราหมณ์อยู่บนแพแล้ว ให้พลประจำเครื่องยนต์ดันแพ
บังคับให้ท้ายแพเข้าหาฝั่ง และเมื่อบ่ายหัวแพออกแล้ว ก็ให้บังคับท้ายแพกลับ และให้ทุ่นทำมุมกับกระแสน้ำ
ตามต้องการ
14.4.3 ในการข้ามลำน้ำ
ระหว่างแพทำการข้ามลำน้ำ พลประจำเครื่องยนต์ดันแพจะต้องเบนหัวแพ ให้
พอเหมาะ เพอที่จะทำให้แพเคลื่อนที่ไปทวนน้ำและล่องมาทางท้ายน้ำด้วย จนกระทั่งถึงท่าเทียบส่งขึ้นทาง
ื่
ท้ายน้ำ มุมที่ตอนหัวแพกระทำกับกระแสน้ำขึ้นอยู่กับความเร็วของกระแสน้ำ ซึ่งมุมที่มาก ที่สุดประมาณ
ิ่
30 องศา ใช้กับกระแสน้ำภายใน 5 ฟต/วินาที ( 1.5 เมตร/วินาที) และถ้าความเร็วกระแสน้ำเพมมากขึ้น
ุ
มุมของทุ่นของแพที่ทำมุมกับกระแสน้ำจะต้องลดลง ต้องระมัดระวังอย่าให้มุมเกินกว่า 30 องศา ในเมื่อ
กระแสน้ำไหลแรงเกินกว่า 1.5 เมตร/วินาที อาจเป็นเหตุให้กระแสน้ำตีแพหมุนกลับได้ เมื่อทำการบังคับแพที่
เคลื่อนที่ไปตามกระแสน้ำที่ไหลแรงไม่ได้แล้วจะเป็นผลทำให้ของที่บรรทุกเสียหาย, แพเสียหาย, และคน
เสียหายได้ ในขณะทำการข้ามลำน้ำ พนักงานต้องอยู่ที่สมอน้ำเพอเตรียมพร้อมที่จะโยนสมอลงน้ำ เพอยึด
ื่
ื่
แพ เมื่อเครื่องยนต์ดันแพดับหรือไม่อยู่ในอำนาจที่บังคับได้
14.5 วิธีการเทียบท่าและส่งขึ้นฝั่ง
การเทียบท่าต้องเทียบท่าทางเหนือน้ำก่อน เมื่อเทียบท่าเรียบร้อยแล้วก็ให้แพถัดไปทาง
ท้ายน้ำเข้าเทียบ เมื่อแพสัมผัสกับท่าเทียบให้พวกสายหนวดพราหมณ์ทางฝั่งไกลขึ้นจากแพ และนำสาย
ิ่
หนวดพราหม์ไปผูกกับสมอบกอย่างรวดเร็ว อย่าเพงให้ยานพาหนะที่บรรทุกเคลื่อนที่ขณะเมื่อการโยงยึด
สายหนวดพราหมณยังไม่เรียบร้อย ถ้าตะม่อตลิ่งสูงกว่าแนวพื้นแพเล็กน้อยก็ให้ยานพาหนะบนแพเคลื่อนที่ถอย
์
ื่
หลังเพอให้ปลายแพเข้าพาดบนตะม่อตลิ่งนั้นได้ ยานพาหนะที่ขึ้นจากแพนี้ต้องมีพลนำทางให้
สัญญาณ