Page 10 - การดาดผิว
P. 10

1-1

                                                         บทที่ 1

                                            โครงสร้างถนนแบบผิวอ่อนตัว


               1. แนวคิดมูลฐาน  (Base Concept)

                        แนวคิดมูลฐานของการสร้างถนน, ที่จอดรถ, สนามบิน สำหรับทุกฤดูกาล คือ  การเตรียมพื้นฐานทาง
               (Subgrade) ที่เหมาะสม มีการระบายน้ำที่จำเป็นและก่อสร้างโครงสร้างถนน (Pavement Structure) ให้มี

                        1.1 ความหนาและความแข็งแรงเพียงพอที่จะรับน้ำหนักบรรทุกของการจราจร  (Traffic load)
                        1.2 ป้องกันการไหลซึมและการสะสมความชื้นภายในโครงสร้างถนน

                            ี
                        1.3  มผิวชั้นบนที่เรียบ,  ต้านทานการลื่นไถล    (Skidding  Resistant),  การสึกหรอ  (Wearing
               Resistant),  การบิดเบี้ยว  (Distortion  Resistant)        และการเสื่อมคุณสมบัติจาก  ลมฟ้าอากาศและ
               เคมีภัณฑ์  (Deterioration)

               2. แบบของถนนเมื่อแบ่งตามลักษณะผิวจราจร

                        แบ่งได้  2 แบบ คือ
                        2.1 แบบยืดหยุ่นหรืออ่อนตัว  (Flexible Pavement)  ได้แก่ ถนนลูกรัง, ถนนราดยาง

                        2.2 แบบกระด้าง (Rigid Pavement) ได้แก่ ถนนคอนกรีต

               3. โครงสร้างถนนลาดยาง  (Flexible Pavement Structure)

                          หมายถึงส่วนของโครงสร้างทั้งหมด  เหนือชั้นพื้นฐานทางขึ้นมา  (Subgrade)  ดูรูปที่      1.1,  1.2,
               โครงสร้างนี้ประกอบไปด้วยขั้นต่าง ๆ ดังนี้.-

                        3.1 ชั้นผิวทาง (ชั้นบนสุด) (Pavement หรือ Surface Course หรือ Wearing Course)
                                     เป็นชั้นที่รับการจราจรของยวดยานโดยตรงมีความต้านทานต่อการบิด  (Distortion)

               มีผิวหน้าเรียบสำหรับการขับขี่  กันน้ำได้  (Waterproof)  มีความลาดเอียงแนวขวางเพื่อระบายน้ำเพื่อป้องกัน

               ความชื้นไม่ให้กัดเซาะโครงสร้างถนนและพื้นฐานทางมีความต้านทานการสึกหรอจากการจราจร     (Traffic
                                              ี
               wearing)  ต้านทานการลื่นไถลและมการยึดเหนี่ยวที่ดีกับชั้นที่อยู่ข้างใต้  สำหรับชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษนั้น
               ใช้ได้ทั้งสามคำที่เห็น แต่จะเรียกว่าเป็น Surface Course ได้ในกรณีที่ชั้นนี้มีความหนาต่ำกว่า  3" หรือ 7.5

               ซม.(บางตำรานิยมใช้ (Wearing Course)  ถ้าชั้นนี้หนากว่า 3" แล้ว จะต้องทำการก่อสร้างเป็นชั้น ๆ และแต่
               ละชั้นจะมีชื่อเรียกต่างกันไปดังนี้

                              3.1.1 ชั้นบนสุด เรียกว่า Surface Course หรือ Wearing Course

                              3.1.2 ชั้นรองลงมา เรียกว่า Binder Course
                              3.1.3 ชั้นใต้สุด (ถ้าม) เรียกว่า Leveling Course
                                                ี
                                                                                            ื่
                      ดูรูปที่ 1.1 ประกอบ และดูตารางที่ 1.1 แสดงการออกแบบความหนาของผิวทางเมอมีความหนาเกิน
               2" ขึ้นไป

                        3.2 ชั้นราก (Base Course)

                              เป็นชั้นที่อยู่ข้างใต้ผิวทาง วัสดุที่ใช้เป็นวัสดุเม็ด (Granular Material) ที่มีความแข็งแรงสูง
               จุดประสงค์การกอสร้างก็เพอ  "กระจายน้ำหนักจากล้อลงไปยังชั้นรองราก  (Sub-base  Course)  หรือชั้น
                             ่
                                      ื่
               พื้นฐานทาง (Subgrade) วัสดุที่ใช้ก่อสร้างต้องมีค่า CBR ไม่น้อยกว่า 80 % การบดทับต้องให้ได้ 100 % ของ
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15