Page 59 - ทางรถไฟทหาร
P. 59
ก-1
ผนวก ก ประวัติ การสร้างทางรถไฟของทหารช่างไทย
ราวปี พ.ศ. 2462 พันตรี หลวงณรงค์สงคราม (พ.อ. พระยาทรงสุรเดช) ซึ่งรับราชการอยู่ที่กองพัน
ทหารช่างโคราชได้เป็นผู้ฝึกฝนการวางรางรถไฟเป็นคนแรก โดยแบ่งการฝึกทหารเป็นพวก ๆ ได้แกพวกแบก
่
ราง, พวกแบกหมอน, และพวกตีตาปู ซึ่งพวกตีตาปูต้องทำถึง 3 คน คือ ตาปูตัวหนึ่งต้องตี 3 ทีจึงจะสำเร็จ
เรียกกันว่า ฆ้อน 1 ฆ้อน 2 ฆ้อน 3 มีการฝึกตีตาปูกันเป็นจังหวะรวดเร็วฉับพลัน
ปฐมเหตุที่จะมีการใช้ทหารช่างโคราชใต้บังคับบัญชาของ หลวงณรงค์ฯ มาวางรางรถไฟก็คอครั้งนั้นที่
ื
กรมทหารโคราชได้มีรถไฟเล็กไว้ใช้ราชการทหาร สำหรับวิ่งไปมาระหว่างกรมทหารสถานีโคราชเพื่อนำบรรดา
นายทหารที่จะมาราชการยังกรุงเทพฯ มาส่งที่สถานีหรือรับกลับไปยังกรมกอง และใช้ลำเลียงจากกรมกอง
้
ทหารที่จะไปฝึกซอมยิงปืนไปยังสนามเป้าโคราช ซึ่งในการวางรางรถไฟเล็กของทางราชการทหารดังกล่าวนี้ได้
สำเร็จ โดยฝีมือของทหารช่างโคราชเอง
ครั้นเสด็จในกรมกำแพงเพชรฯ ผู้อำนวยการรถไฟสมัยนั้นเสด็จไปเห็นการปฏิบัติงานรถไฟของทหาร
ช่างโคราชเข้าก็ทรงพอพระทัยยิ่ง, จึงทรงขอทหารช่างเหล่านี้ไปดำเนินการงานด้านรถไฟ โดยขั้นแรกทรงขอ
เวลาให้ไปทำสัก 1 ปีก่อน
จากการฝึกฝนการวางรางภายใต้อำนวยการของหลวงณรงค์ฯ พอเห็นว่าพอใช้การได้แล้วก็เริ่มลำเลียง
พล ออกปฏิบัติงานทันที
ี่
็
่
แห่งแรกทกองพันทหารช่างโคราชไปทำกคือ จากถ้ำขุนตาลถึงเชียงใหม ตอนแรกไปทำกันเป็น
กองร้อยก่อน และต่อมายกขบวนไปทำทั้งกองพันทีเดียว ไปตั้งค่ายกางเต้นท์กันอยู่ชายป่ากลางทุ่งตื่นแต่เช้ามืด
ทุกวันลงมือทำงานกันแต่ 5 น. เพราะอากาศกำลังสดชื่นกลางวันแดดร้อนจัดทำกันไม่ได้มาก พอรับประทาน
อาหารกลางวันเสร็จก็ทำต่อจนค่ำ บางครั้งงานเร่งขึ้นก็ต้องจุดตะเกียงเจ้าพายุทำต่อจนถึงกลางคืน พอทำเสร็จ
ไปตอนหนึ่ง ๆ รถเดินได้แล้วก็ขนสัมภาระข้าวของเครื่องใช้ไม้สอยทั้งปวงขึ้นรถบรรทุกคืบหน้าไปจนสุดทางที่
วางรางไว้เสร็จแล้วหยุดลำเลียงสัมภาระตั้งหลักใหม่มุ่งหน้าทำกันต่อไป ทำเช่นนี้อยู่เรื่อย ๆ ไปจนกว่าสำเร็จ
เพื่อให้งานลุล่วงไปด้วยดี ผู้บังคับกองพันหลวงณรงค์ฯ ผู้นี้จึงได้จัดให้มีการแข่งขันกันทำงานโดยมีการ
ตั้งรางวัลให้แก่ผู้ทำงานดีเป็นประเภท ๆ ทั้งแบกราง, แบกไม้หมอน, และพวกตีตาปู รางวัลเหล่านี้เป็นเงิน
ส่วนตัวของผู้บังคับกองพันเองทั้งสิ้น
งานวางรางรถไฟสายเหนือ จากถ้ำขุนตาลถึงเชียงใหม่ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน คือราวเดือนธันวาคม
ไปจนถึงเดือนพฤษภาคมปีรุ่งขึ้น ก็สำเร็จลงนับเป็นอนุสรณ์สำคัญชิ้นหนึ่งของพระยาทรงสุรเดชที่ได้มอบให้แก่
ชาติไทย (นายทหารที่ได้ร่วมงานวางรางรถไฟตอนนี้กับพระยาทรงฯ ได้แก่ พลตรี หม่อมหลวงโอสถทินกร) ถัด
จากวางรางรถไฟสายเหนือที่เชียงใหม่แล้ว พระยาทรงฯ ก็ได้รับมอบงานอีก 2 แห่งคือ วางรางรถไฟสาย
ตะวันออก จากแปดริ้วถึงอรัญประเทศ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ จากโคราชถึงสถานีท่าช้าง
ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ปี เมื่อวางรางไปถึงสถานีท่าช้างแล้ว ทางรถไฟยังมีความประสงค์ที่จะให้
ทำต่อกันไปจนถึงอบล ร้อยเอดอีกด้วย หากแต่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ ไม่ทรงยินยอมด้วย เพราะทรง
ุ
็
สงสารที่กรำแดดกรำฝนกันมานานพอดูแล้ว งานวางรางรถไฟของพระยาทรงฯ จึงยุติลงเพียงนั้น
เมื่องานวางรางรถไฟได้ยุติลงแล้ว พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ ได้เสร็จไปทอดพระเนตรผลงาน
ของกองพันทหารช่างโคราชถึงสถานีท่าช้าง ด้วยความโสมนัสในพระทัยเป็นอย่างยิ่งและในโอกาสนั้นได้ ทรง