Page 18 - การดาดผิว
P. 18

2-6

               (ระเหยง่ายกว่า) ให้ออกมาตามลำดับ คือ แนพธา (Naptha) น้ำมันเบนซิน (Gasoline)  น้ำมันก๊าด

               (Kerosene) และน้ำมันดีเซล (Diesel Oil) สารที่เหลือจากการกลั่น (Residue) คือ พวกส่วนประกอบที่หนัก
                                                    ี
               (Heavy Fraction) จะถูกนำเข้ากรรมวิธีอกครั้ง (หรือกลั่นซ้ำ) ก็จะได้พวกน้ำมันพวกระเหยยากเช่น
                                                          ั
               น้ำมันหล่อลื่นต่าง ๆ (Lubricating oil) แต่แอสฟลท์เป็นส่วนที่ไม่ยอมระเหยเมื่อมีการกลั่น หรือเรียกว่า
                                                                                          ั
               ผลิตภัณฑ์ส่วนที่เหลือจากการกลั่น (Residual Product)     เราจึงได้ผลิตภัณฑ์ แอสฟลท์ออกมาเป็นตัว
               สุดท้าย เรียกแอสฟัลท์ชนิดนี้ว่า "แอสฟัลท์ซีเมนต์" (Asphalt Cement หรือ  AC.)

                              2.1.3 คุณสมบัติหรือลักษณะเฉพาะที่พึงปรารถนาของแอสฟัลท์ซีเมนต์

               (Desired Properties  or Characteristics of AC.)
                                     สำหรับจุดประสงค์ในด้านวิศวกรรมและการก่อสร้าง       คุณสมบัติที่สำคัญของ

               แอสฟัลท์ มี 3 ประการ คือ
                                     2.1.3.1 ความหนืด  (Viscosity)

                                            บางครั้งเรียกว่า    ความข้นเหลว (Consistency),  ความเหลว(Fluidity)
                                           ุ
               หรือพลาสติคซิตี้ (Plasticity) ที่อณหภูมิปกติแอสฟลท์จะมีสถานะกึ่งแข็ง (77 ํF, 25ํ C) (Semi-Solid) โดยที่
                                                          ั
               แอสฟลท์เป็นวัสดุเทอร์โมพลาสติก (Thermo Plastic) จึงจะค่อย ๆ เหลวเมื่อได้รับความร้อน  แสดง
                     ั
                                                                                          ุ
                                                                        ั
               ลักษณะเฉพาะโดยความหนืดที่อุณหภูมิต่างกัน  ความหนืดของแอสฟลท์เปลี่ยนแปลงตามอณหภูมิ จึงจำเป็นที่
               จะต้องกำหนดอุณหภูมิมาตรฐานสำหรับเปรียบเทียบความหนืดของแอสฟัลท์ซีเมนต์ แต่ละชนิด  การแบ่งเกรด
               ของแอสฟัลท์ซีเมนต์แบ่งตามช่วงความหนืดที่อุณหภูมิมาตรฐานการระบุและการวัดค่าความหนืดของแอสฟัลท์

               ใช้การทดสอบหาความหนืด (Viscosity Test) หรือการทดสอบการทะลุทะลวง (Penetration Test)
                                     2.1.3.2 ความบริสุทธิ์    (Purity)

                                                 ั
                                            แอสฟลท์ซีเมนต์ที่ได้จากการกลั่นจะประกอบด้วยบิทูเมนบริสุทธิ์มากกว่า
               99.5 % สิ่งเจือปน (Impurities) ที่มีอยู่เป็นพวกสารเฉื่อย (Inert)  โดยปกติจะไม่มีน้ำปนอยู่ แต่การบรรจุหรือ
               การขนส่งอาจทำให้มีน้ำเข้าไปปะปนอยู่ได้ ซึ่งจะทำให้แอสฟัลท์เดือดเป็นฟอง เมื่อได้รับความร้อนมากกว่า 100

               ํ C  (212 ํ F)
                                     2.1.3.3 ความปลอดภัย    (Safety)

                                            การเดือดเป็นฟองของแอสฟลท์มีอนตรายสูง จึงมีข้อกำหนดว่า แอสฟลท์
                                                                                                       ั
                                                                         ั
                                                                    ั
                                                                 ั
                                                                                   ุ
               ต้องไม่ เดือดเป็นฟองที่อณหภูมิ 175 ํ C (347 ํ F) แอสฟลท์ซีเมนต์เมื่อได้รับอณหภูมิสูงพอ จะปล่อยไอ
                                     ุ
               (Fume) ที่ลุกวาบได้เมื่อ สัมผัสกับประกายไฟ (Spark) หรือเปลวไฟ (Flame)  เราจึงต้องทราบจุดวาบไฟ
               (Flash Point) ของแอสฟัลท์ซีเมนต์ก่อนการปฏิบัติงาน
                              2.1.4 จุดวาบไฟ (Flash Point)

                                     คือ จุดที่อุณหภูมิสูงถึงขีดที่ทำให้ ไอระเหย  (Fume)      จากวัสดุนั้น       "ลุกวาบ"

                                                                             ุ
               ในพริบตา ซึ่งไม่เหมือนจุดติดไฟ (Fire Point) เพราะจุดติดไฟ คือ จุดที่อณหภูมิสูงจน "ตัววัสดุ" นั้นลุกไหม้
                                                                                        ื่
                         ุ
                                                   ุ
               อย่างไรก็ดีอณหภูมิที่จุดวาบไฟมีค่าสูงกว่าอณหภูมิที่ใช้ทั่ว ๆไป ในการปฏิบัติงาน แต่เพอความแน่ใจในความ
               ปลอดภัยจึงควรทราบจุดวาบไฟของแอสฟลท์ที่จะนำมาใช้งานก่อนเสมอ รายละเอยดการทดสอบจุดวาบไฟ
                                                   ั
                                                                                     ี
               และตารางแสดงแบบอย่างอุณหภูมิสำหรับการใช้แอสฟัลท์  อยู่ในตารางในภาค ผนวก ท้ายเล่ม
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23