Page 35 - เครื่องยกของหนัก

3-3

ในที่นี้เราจะกล่าวถึง เฉพาะเรื่องการใช้ขบวนรอกเท่านั้น เช่น เราต้องการยกน้้าหนักขนาด 100 ปอนด์ แต่
เราได้ประกอบขบวนรอกขึ้น และออกแรงดึงที่สา ยดึงเพียง 10 ปอนด์ ก็สามารถยกน้้าหนัก 100 ปอนด์ ได้เรา

เรียกว่าขบวนรอกนั้นได้เปรียบเชิงกล10 หรือ ก้าลังทดเท่ากับ 10

4. แรงเสียดสี
(ขบวนรอกตามรูปที่ 3.2) จะเห็นได้ว่าเมื่อเราใช้แรงที่สายดึง น้้าหนักเพียงแต่จะเริ่มเคลื่อนเท่านั้น

่
หมายความว่า ถ้าเราเพิ่มแรงให้แก P อีกในขณะนี้เพียงเล็กน้อยที่สุดเพียงใดก็ตามเราก็จะสามารถยกน้้าหนักได้ แต่
ในทางปฏิบัติหาเป็นเช่นนั้นไม่ เราจะต้องเพิ่มแรงให้แก่ อีกจ้านวนหนึ่งให้พอเพียงต้านกับแรงเสียดสีที่มีอยู่ แรง
เสียดสีนี้เกิดจากแรงเสียดสีของล้อรอก กับเพลารอกแรงเสียดสีที่เกิดจากเชือกเสี ยดสีกับโครงรอกเป็นต้น เพื่อให้
ง่ายในการค้านวณหาค่าของแรง เรามีสูตรง่าย ๆ ส้าหรับหาดังนี้.-

สูตร P = L FL
MA
สูตร FL = L x N x F
f
s
ในเมื่อ P คือ แรงดึงในสายดึงเป็นปอนด์
L คือ น้้าหนักที่จะยกเป็นปอนด์

FL คือ แรงเสียดสีซึ่งจะมีค่าตาม เป็นปอนด์
หรือเรียกว่า ค่าความผืดของรอก
MA คือ ก้าลังทดของขบวนรอก (หาทางทฤษฏี)

N คือ จ้านวนล้อรอกที่มีอยู่ทั้งหมดในขบวนรอกนั้น
s
F คือ คุณภาพของรอก (ค่าของความฝืด ตามสภาพของรอก)มีเกณฑ์ดังนี้.-
f
1
= ส้าหรับรอกใหม่, คุณภาพเยี่ยม
10
1
= รอกคุณภาพดี
8
1
= รอกคุณภาพพอใช้
5
เมื่อหาค่า FL แล้วก็มาแทนค่า สูตร P = L  FL ถ้าได้ค่า P มากกว่า แหล่งต้นก้าลังที่มีอยู่ ต้อง
MA
หา MA ใหม่ จนกว่าจะได้ค่า P น้อยกว่าแหล่งต้นก้าลัง ตามตัวอย่าง

4.1 ขบวนรอก แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ.-
4.1.1 ขบวนรอกสามัญ คือ รอก ๒ ตัวขึ้นไป ร้อยอยู่ในเชือกเส้นเดียว
4.1.2 ขบวนรอกผสม คือ ขบวนรอกที่มีรอกตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป ร้อยอยู่ในเชือกมากกว่า 1 เส้นขึ้น
ไป

4.2 การคิดค านวณหา การได้เปรียบเชิงกลของขบวนรอก

4.2.1 ต้องทราบ SP (แหล่งต้นก้าลัง)
(1) ก้าลังทหาร 1 คน ดึงได้ 60 - 100 ปอนด์
(2) กว้าน
4.2.2 ต้องทราบ W (น้้าหนักที่จะยก)

เมื่อทราบ 2 ประการแล้ว หา MA ทางทฤษฏี = W
SP
เพื่อเป็นการเข้าใจง่ายอาจอธิบายโดยใช้รูปประกอบ