Page 63 - ป้อมสนาม
P. 63

6-3



                              2.3.2 เครื่องกีดขวางจะต้องเชื่อมโยงกับส่วนต่าง ๆ ทั้งการรุก และรับ  (Tied in with

                                      Elements of the Offense and Defense)
                                     หลักการส าคัญข้อนี้มักจะถูกมองข้ามไปบ่อย ๆ "ค าว่า การเชื่อมโยงกับส่วนต่าง ๆ  ของ

               การรุกและตั้งรับนั้น "  หมายความว่าอย่างไร ?  ค านี้จะมีความหมายสองประการคือ
                                     2.3.2.1 จะต้องมั่นใจว่าเครื่องกีดขวางที่ใช้นั้นเหมาะสมกับแผนส่วนรวมของผู้บังคับ
               บัญชา  และต้องมั่นใจว่าเครื่องกีดขวางเหล่านั้น    มีความมุ่งหมายโดยเฉพาะที่จะท าให้เกิดผลส าเร็จ

               ต่อแผนของส่วนรวม
                                     2.3.2.2  ต้องมั่นใจว่าหน่วยข้างเคียง ทางปีกซ้าย -ปีกขวา  หน่วยข้างหน้า-หน่วยข้างหลัง
               ของท่านทราบที่ตั้ง   ความมุ่งหมาย  และแบบของเครื่องกีดขวางที่ใช้   เมื่อจะเริ่มสร้างเครื่องกีดขวางจะใช้เครื่อง
               กีดขวางอะไร ?        ใครเป็นผู้คุ้มครอง และคุ้มครองนานเท่าใด ถ้าทุกคนทุกหน่วยทราบสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้แล้ว

               เครื่องกีดขวาง ที่ท่านจะใช้ก็จะได้ประโยชน์สมความมุ่งหมายมากขึ้น

                      2.4 คุ้มครองด้วยการยิงที่เหมาะสม  (Cover By Appropriate Fire)
                                 การคุ้มครองเครื่องกีดขวางด้วยการยิงที่เหมาะสมอาจหมายถึงการกระท าเพื่อรั้งหน่วงข้าศึก
               เพียงเล็กน้อย การรบกวน ไปจนถึงการบังคับให้ข้าศึกต่อสู้อย่างเสียหายหรือขั้นแตกหัก ถึงขั้นเสียหายทั้งก าลังพล
               และวัสดุอย่างมากมาย   การคุ้มครองเครื่องกีดขวางด้วยการยิงจะต้องพิจารณาถึงปัจจัยหลายประการดังนี้

                              -  เราจะต้องใช้เครื่องกีดขวางอะไร ชนิดต่อต้านบุคคล หรือต่อต้านยานเกราะ
                              - วิธีที่ข้าศึกจะใช้ในการเจาะช่องผ่านเครื่องกีดขวางเข้ามา
                              -  พื้นที่ที่จะยิงคุ้มครองการยิงเกี่ยวข้องกับเครื่องกีดขวางที่สกัดกั้นเส้นทางรุกแคบ  ๆ เพียงแห่ง

               เดียวหรือหลายๆ   แห่งหรื อจะต้องคุ้มครองเครื่องกีดขวางทั้งระบบที่กว้างใหญ่ หรือเขตฉากขัดขวาง  เมื่อเรา
               สามารถตอบปัญหาเหล่านี้ได้หมด การยิงคุ้มครองเครื่องกีดขวางก็จะท าได้อย่างง่ายดาย
                                       ถ้าเป็นเครื่องกีดขวางต่อต้านยานเกราะ เราจะต้องสามารถคุ้มครองเครื่องกีดขวางด้ วยอาวุธยิง
               ต่อต้านยานเกราะเพื่อต่อต้านยานเกราะทันทีที่ยานเกราะนั้นถูกเครื่องกีดขวางนั้นรั้งหน่วง  และจะต้องมีอาวุธปืน

               เล็กคุ้มครองด้วยเพื่อป้องกันมิให้ทหารของข้าศึกเจาะช่องเครื่องกีดขวางหรือถากถางทางให้กับยานเกราะ
                                       การยิงคุ้มครองเครื่องกีดขวางต่อต้านบุคคล ไม่เพียงแต่จะต้องคุ้มครองมิให้ทหารข้าศึกเจาะ
               ช่องได้เท่านั้น แต่ควรให้สามารถหยุดยั้งยานเกราะใด ๆ ที่อาจใช้เจาะช่องได้ด้วย   ตัวอย่าง  เป็นสิ่งพึงปรารถนา

               อย่างยิ่งที่จะคุ้มครองสนามทุ่นระเบิดสังหาร     ด้วยอาวุธต่อสู้รถถัง  เพื่อป้องกันร  ถถังซึ่งจะไม่เป็นอันตรายจาก
               สนามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลมิให้กวาดล้างช่องทางให้แก่หน่วยทหาร
                                       ถ้าไม่สามารถคุ้มครองเครื่องกีดขวางด้วยอาวุธปืนเล็ก และอาวุธต่อสู้รถถังที่เล็งตรงแล้ว
               จะต้องแก้ปัญหานี้ต่อไป   ด้วยการยิงของปืนใหญ่ที่มีการตรวจก  ารณ์   ปืนใหญ่ที่คุ้มครองเครื่องกีดขวาควร

               เตรียมการยิงให้ได้ผลทั้งบุคคล และยานเกราะ เช่น ใช้กระสุนปืนใหญ่ที่ใช้ชนวนวิถีส าหรับบุคคล ใช้กระสุนปืนใหญ่
               ดินระเบิดสูงที่ใช้ชนวนกระทบแตกส าหรับยานเกราะ  อย่างไรก็ตามการคุ้มครองเครื่องกีดขวางด้วยอาวุธเล็งตรงก็
                      ึ
               เป็นสิ่งพงปรารถนาเสมอ การคุ้มครองเครื่องกีดขวางด้วยปืนใหญ่อย่างเดียวจึงควรหลีกเลี่ยง   เว้นแต่ว่าเราไม ่
               สามารถใช้อาวุธอื่น ๆ ได้
                                       การคุ้มครองเครื่องกีดขวางที่กว้างขวางหรือฉากขัดขวางทุกจุดด้วยการยิงอย่างต่อเนื่องนั้น มัก
               เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือเป็นสิ่งที่เราไม่ปรารถนา ดังนั้นการป้องกันเครื่อง กีดขวางเหล่านี้จึงใช้ "หน่วยเคลื่อนที่เร็ว
               ซึ่งติดตั้งอาวุธปืนเล็ก และอาวุธต่อสู้รถถัง"
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68