Page 29 - การก่อสร้างและสาธาฯ
P. 29
2-6
2.4.1.2 การตีฝาแบบบังใบ
การตีฝาแบบนี้ต้องใช้ไม้หนาไม่น้อยกว่า ¾ นิ้ว ซึ่งปัจจุบันไม่นิยม
เพราะราคาแพง และต้องไม้ที่ใช้ควรเป็นไม้สัก เพื่อว่าเมื่อไม้แห้งสนิทแล้ว จะได้ไม่เกิดเป็นช่องห่าง หรือ
บิดงอ
2.4.1.3 การตีฝาแบบใช้ลิ้น
ส้าหรับวิธีนี้จะเหมือนกับการตีฝาแบบบังใบ คือต้องใช้ไม้หนาไม่น้อยกว่า
¾ นิ้ว และควรใช้ไม้สัก จึงไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน การตีฝาแบบใช้ลิ้น สามารถท้าได้ 2 วิธีคือ แบบ
สอดลิ้น และแบบเข้าลิ้น
2.4.1.4 การตีฝาแบบซ้อนเกล็ด
การตีฝาแบบนี้จะใช้ไม้หนาไม่น้อยกว่า ½ นิ้ว และจะตีซ้อนทับกัน 1
นิ้ว การตีฝาแบบซ้อนเกล็ดสามารถท้าได้ 3 ลักษณะ คือ
(1) แบบซ้อนเกล็ดเดียว ใช้ไม้ขนาดเดียว
(2) แบบซ้อนเกล็ดสลับ ใช้ไม้ 4 นิ้ว สลับกับ 5 นิ้ว อย่างละแผ่น
(3) แบบซ้อนเกล็ดสลับคู่ ใช้ไม้ 6 นิ้ว หนึ่งแผ่น สลับกับ ไม้ 4 นิ้ว 2
แผ่น
2.2.4.2 ฝาไม้ตีทางตั้ง
ส้าหรับฝาไม้ตีทางตั้ง จะต้องท้าโครงเคร่านอน ที่ระยะห่าง 0.40 – 0.50
ม. ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ฝาไม้โก่ง การตีฝาทางตั้งนี้จะไม่เหมาะกับฝาไม้ตอนล่างของอาคารที่ต้องเปียก
ชื้นอยู่เสมอ เพราะหัวไม้จะผุตลอดแนวฝา หากต้องเปลี่ยนจะต้องเปลี่ยนทั้งหมด
การตีฝาทางตั้งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบหลักๆ คือ
2.4.2.2 การตีฝาแบบทับแนว การตีแบบนี้จะใช้ไม้หนา ¾ นิ้ว และ ½
นิ้ว ซึ่ง
สามารถท าได้ 3 ลักษณะ คือ ตีชิด ตีห่าง และตีทับแนวแบบใช้ไม้ขนาดเดียวกัน
2.4.2.3 การตีฝาแบบชนแนว การตีแบบนี้ จะใช้กับปีกไม้ โดยปีกไม้ที่ใช้
จะต้อง
แต่งด้านข้างให้เรียบ เพื่อให้สามารถน ามาวางชนกันแล้วรอยต่อแนบสนิท