Page 27 - การก่อสร้างและสาธาฯ
P. 27
2-4
2.2 ส่วนตัวอาคารไม้
ส่วนตัวอาคารไม้ จะเป็นส่วนที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งจะมีผนังข้างโดยรอบ ส่วนตัวอาคารไม้จะ
ประกอบด้วย เสาไม้ คานไม้ ตงไม้ ฝาไม้และโครงเคร่าไม้ ประตู และหน้าต่าง
2.2.1 เสาไม้
เสาไม้จะเป็นองค์อาคารที่ท้าหน้าที่รับน้้าหนักของตัวอาคาร แล้วถ่ายน้้าหนักลงสู่ฐาน
ราก เสาไม้ส้าหรับอาคารไม้นี้ มีอยู่หลายชนิดเช่น เสากลม เสาเหลี่ยม (สี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม หรือแปด
เหลี่ยม เป็นต้น) และเสาประกอบ
2.2.2 คานไม้
คานไม้เป็นองค์อาคารที่ท้าหน้าที่รับน้้าหนักจากตง และยึดเสา คานไม้เมื่อรับน้้าหนัก
จากตงแล้ว จะถ่ายน้้าหนักไปยังเสาที่เป็นจุดรองรับ
การเรียกชื่อคาน สามารถเรียกตามลักษณะการวางคานได้ 3 ลักษณะคือ
2.2.2.1 คานตามยาว
เป็นคานที่วางไปตามความยาวของ ส้าหรับคานที่วางอยู่ด้านริมของอาคารจะรับ
น้้าหนักจากตงเพียงด้านเดียว มักจะเป็นคานเดี่ยว ในขณะที่คานที่วางอยู่บริเวณตรงกลาง ซึ่งจะต้องรับ
น้้าหนักจากตงทั้งสองด้านของคาน จึงมักจะใช้เป็นคานคู่ หรือไม่ฉะนั้นต้องใช้คานที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม
แต่มักไม่เป็นที่นิยม
2.2.2.2 คานตามขวาง
ในบางครั้งถาช่วงระยะกว้างของอาคารกว้างมากๆ อาจจะออกแบบให้อาคารมี
้
คานตามขวางได้ ซึ่งคานขวางนี้จะวางไปตามแนวขวางของห้อง หรือด้านแคบของห้อง ส่วนใหญ่คาน
ขวางจะเป็นคานเดี่ยว
2.2.2.3 คานยื่น
เป็นคานที่ยื่นออกไปนอกตัวอาคาร ซึ่งปลายตรงส่วนที่ยื่นจะไม่เสารองรับ ส่วนใหญ่พื้นที่ส่วนที่ยื่นออกมา
จะใช้เป็นระเบียง หรือเฉลียง
2.2.3 ตงไม้
ตงไม้เป็นองค์อาคารที่ท้าหน้าที่รับน้้าหนักจากพื้นไม้ แล้วถ่ายน้้าหนักลงคานไม้ และช่วย
ยึดพื้นไม้ การเลือกใช้ขนาดตงไม้ และระยะห่างการวางตงไม้นั้น จะยึดถือความหนาของพื้นไม้เป็นหลัก
โดยทั่วไปแล้วระยะห่างระหว่างตงจะใช้ 50 ซม. หากระยะห่างมากกว่านี้ อาจจะท้าให้พื้นไม้โก่งได้ แต่
ถ้าอาคารไม้ต้องรับน้้าหนักมากขึ้น อาจจะวางตงให้ถี่มากขึ้นได้
การวางตง สามารถวางได้ 2 แบบหลักๆ คือ วางบนคาน และวางเสมอหลังคาน ซึ่งในการวาง
แบบหลังนี้ต้องใช้พุกไม้ยึดติดกับคานเพื่อรับตง