Page 137 - สะพานเครื่องหนุนมั่น
P. 137

6-15

                                 7.3.3  ลักษณะอาการของเสาหมู (Group action)
                                                                                             
                                                                                           ี่
                                                                    ั
                                        เมื่อเราปกเสาชนิดแรงผืดใกล  ๆ  กนแลว  ประสิทธิภาพของเสาทใหผลแตละเสาจะ
                    ลดลง ในหมูเสาเหลานั้น ในชารทที่แสดงในรูป มีมูลฐานมาจาก Converse labarre method ในการใชชารท
                                                                       
                                              ํ
                                                                                         
                                                                                                   
                    นี้ตามรูป      ขนแรกเราจะตองกาหนดจํานวนตับของตะมอเสียกอน                  ถาระยะทอดขางเคียง(
                                 ั้
                    Adjacent span length ) มีความยาวเกนกวา 25 ฟุตแลว  เราจําเปนตองใชตะมอหมูคือ pier หรือตะมอปก
                                                                                                     
                                                    ิ
                                                                            
                                                                                       
                           ื
                                                                                                ํ
                    2 ตับหรอมากกวา  ถา  N  มีคามาก เราก็จะตองพิจารณา เรื่องระยะหางเสา  ซึ่งอาจมีความจาเปนตองใช
                                                                             
                                         pr
                                 ็
                       
                    ตะมอถึง  3  ตับกได  เมือเราไดกาหนดจํานวนตับของตะมอแลว  อัตราสวนของระยะหางระหวางเสาปกทาง
                                              ํ
                                                                                         
                                                                                                     
                                       ่
                    ทฤษฎกบขนาดของเสา ทางทฤษฏ   ี  (  S /  d  )  ก็จะตองคํานวณขนใหไดคาออกมา  ซึ่งอัตราสวนนี้จะหาได
                                                                         ึ้
                                                                               
                          ั
                         ี
                                                                            
                                                                              
                                                  P p
                                                                                                     ั
                                                  
                    โดยเอาคาจานวนเสาที่ตองการ N  เขาไปตามแกนของ  N  แลว ลากเสนทางระดับไปทางขวามือตัดกบเสน
                             ํ
                                              pr
                                                                 pe
                                                                                                    ี่
                                                                       ี่
                                                                     า
                                                                     ่
                                                                                
                    S / d    โดยเอาคา    S /  d    ซึ่งอาจใชวิธีเฉลี่ย แตคาที่ตํทสุดที่ยอมใหใชได คือ  3  จากจุดตัดทไดของ
                     P p
                                        P p
                                       ี้
                                                                                                     ี้
                                                                        
                    N  กับ   S / d     นลากเสนทางดิ่งลงมายังแกนนอน N  ซึ่งอยูตอนลางของชารท คาของ N  ที่ไดน ควร
                              P p
                                                                  p
                     pr
                                                                                               p
                                                                          
                             
                       
                                          ั
                                                     
                    จะปดเศษใหเปนจํานวนเต็มถดไป  เพื่อใหไดจํานวนที่แทจริงของเสาตอตับ  คาที่แทจริง  Actual  S /  d
                                                                                                        p
                                                                                                   P
                    จะตองตรวจสอบอกครงหนึ่ง  เพื่อใหแนใจวาไมตกอยู ณ จุดต่ํกวาคา 3  ซึ่งจํานวน ที่แทจรงของจํานวนเสาที่
                                     ั้
                                                                    า
                                                                                           ิ
                                  ี
                    ใหผล N   จะตองเปนดังนี้.-
                      
                          pe
                                               N        ‡     N
                                       pe
                                                    pr
                                                   ั
                               ั
                                                      ้
                                                      า
                           สําหรบเสา  End-bearing  จะรบนํหนัก  Full  allowable  pile  load  โดยไมตองลดประสิทธิภาพ
                     ั
                    อนเนองมาจาก Group action เลย
                        ื่

                                             รูปที่ 6.9 ผลที่เกิดตอลักษณะของเสาปกหมู
                                                             
   132   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142