Page 14 - Soil_Eng

1-6

2.เป็นแผ่น (Platy) หรือ เป็นเกล็ด (Flaky)

รูปที่ 1.10 ลักษณะของเม็ดดินที่มีลักษณะเป็นแผ่น หรือ เกล็ด

แผ่น (platy) เกล็ด (Flakey)
เกล็ด
แผ่น
(Platy) (Flakey)

3.เป็นก้อนยาว (Elongated)

รูปที่ 1.11 ลักษณะของเม็ดดินที่มีลักษณะเป็นก้อนยาว

8. สภาพความข้นเหลวของดิน (Consistency)

มวลดินจ้าพวกเม็ดละเอียด โดยเฉพาะพวกดินเหนียว (Clay) จะมีคุณสมบัติไวต่อปริมาณน้้าที่ มีอยู่ใน
มวลดิน ปริมาณน้้าที่มีอยู่ในปริมาณที่แตกต่างกันจะมีผลท้าให้มวลดินเหนียวมีสภาพที่แตกต่าง กันออกไป

สภาพต่างๆ เหล่านั้นได้แก่

1.สภาพเหลว (Liquid) เป็นสภาพที่มวลดินมีปริมาณน้้ามากที่สุด และมีปริมาตรมากที่สุด มวลดิน

จะมีลักษณะเป็นของเหลวสามารถไหลได้ด้วยน้้าหนักของมันเอง

2.สภาพพลาสติก (Plastic) เป็นสภาพที่มวลดินสามารถคลึงเป็นรูปร่างต่างๆ ได้ โดยที่ไม่มี การ
แตกร้าว หรืออาจจะเรียกว่าเป็นสภาพที่มวลดินมีความเหนียว ดังนั้นสภาพพลาสติกอาจจะเรียกอีก อย่างหนึ่ง

ว่า สภาพเหนียว

3.สภาพกึ่งแข็ง (Semi-Solid) เป็นสภาพที่มวลดินสามารถคลึงเป็นรูปร่างต่างๆ ได้ แต่จะมี การ
แตกร้าวเกิดขึ้น

4.สภาพแข็ง (Solid) เป็นสภาพที่มวลดินมีปริมาณน้้าน้อยที่สุด และมีปริมาตรน้อยที่สุด มวลดินจะ

จับกันเป็นก้อนแข็งไม่สามารถคลึงให้เปลี่ยนรูปร่างได้

ปริมาณน้้าที่มีอยู่ในมวลดินนอกจากจะมีผลต่อการเปลี่ยนสภาพของมวลดินแล้ว ยังมีผลต่อการ

เปลี่ยนปริมาตรของมวลดินด้วย ผลของปริมาณน้้าที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของมวลดิน สามารถ
แสดงได้ด้วยกราฟความสัมพันธ์ระหว่าง ปริมาณน้้า และ ปริมาตรของมวลดิน ซึ่งเรียกว่า กราฟความข้นเหลว

ของมวลดิน (Consistency Limit Graph) ดังแสดงในรูปที่ 1.12