Page 12 - การสำรวจ
P. 12
1-5
ประการคือ ต้องเป็นระยะทางในแนวราบ และเป็นระยะในเส้นตรงการวัดระยะเพื่อหาความยาว หรือ
้
่
ี่
ั่
ระยะห่างของจุดตาง ๆ จะต้องมีหน่วยของระยะทเป็นสากลหรือเป็นที่รับรู้และใชกันทวไป หน่วยของ
้
ระยะที่ยังคงใช้กันในปัจจุบันแบ่งไดเป็นระบบต่าง ๆ คือ
6.1 ระบบอังกฤษ กำหนดหน่วยระยะเป็น นิ้ว ฟุต หลาและไมลโดยกำหนดคาไว้ดังนี้
่
์
12 นิ้ว = 1 ฟุต
3 ฟุต = 1 หลา
1,760 หลา = 1 ไมล ์
ระยะ 1 ไมลในที่นี้เป็นไมลบก (Statute Mile) เมื่อเทียบเป็นฟุตแล้วจะยาว 5,280 ฟุต ถ้าเป็น
์
์
ระยะ 1 ไมล์ทะเล (Nautical Mile) จะมีความยาว 6,080 ฟุตยาวกว่าไมลบก 800 ฟุต
์
6.2 ระบบเมตริก กำหนดของระยะไว้ดังนี้
10 มิลลิเมตร = 1 เซนติเมตร
10 เซนติเมตร = 1 เดซิเมตร
10 เดซิเมตร = 1 เมตร
10 เมตร = 1 เดคาเมตร
10 เดคาเมตร = 1 เฮกโตเมตร
10 เฮกโตเมตร = 1 กิโลเมตร
่
ระบบเมตริกจะแบ่งหน่วยของระยะเป็นส่วนย่อยดังกลาว แต่ในประเทศไทยนิยมใชเป็น
้
บางสวน คือ มิลลิเมตร เซนติเมตร เมตรและกิโลเมตร ขึ้นอยู่กับความยาวของระยะ กลาวคือถ้าระยะ
่
่
สั้นจะวัดเป็นมิลลิเมตร เซนติเมตร หรือเมตร แต่ระยะยาวจะวัดเป็นกิโลเมตร
6.3 ระบบ SI Unit (The International System of Unit) หน่วยการวัดนี้เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.
1960 เพื่อให้ทั่วโลกใช้หน่วยการวัดต่าง ๆ เป็นหน่วยเดียวกัน ระยะหรือความยาวเป็นหน่วยพื้นฐาน (SI
Base Unit) หน่วยของระบบ SI Unit มีหน่วยเป็นเมตร (Meter) ใช้สัญลักษณ m ถ้าหากเป็นระยะยาว
์
จะใสตัวอักษรนําหน้า หรือใช้ตัวเลขยกกำลังประกอบ เช่น
่
40 เมตร = 40 m.
600 เมตร = 600 m.
8,000 เมตร = 8 km.
6.4 ระบบไทย โดยทั่วไปการวัดระยะทางจะใชหน่วย เมตร เป็นหน่วยในระบบเมตริก ดังนั้น
้
ปริมาณทเกี่ยวของกับระยะทางก็จะใชหน่วยในระบบเมตริกเช่นเดยวกับระยะทาง เช่น พื้นทขนาดเลก
็
ี่
้
ี
ี่