Page 27 - การดาดผิว
P. 27

3-2

                        3.3 การทดสอบการทะลุทะลวง (Penetration Test)

                                เมื่อได้ทำการทดสอบการรินในข้อ 3.2 แล้ว ถ้าตัวอย่างวัสดุฯ ไม่ไหลก็แน่ใจได้ว่าวัสดุนั้น คือ
                                                            ื่
                    ั
               แอสฟลท์ซีเมนต์ การทดสอบการทะลุทะลวงกระทำเพอให้ทราบถึงเกรดความแข็งโดยประมาณของแอสฟลท์
                                                                                                       ั
                                             ี
               ซีเมนต์ เพราะเกรดโดยประมาณก็เพยงพอที่จะทำให้เราทราบวิธีการก่อสร้าง, เครื่องมือที่เหมาะสม, อตราการ
                                                                                                   ั
                                                                                      ื่
                                                                                                       ั
                          ุ
               ใช้วัสดุและอณหภูมิที่ใช้ผสม  การทดสอบกระทำโดยการกดตะปูหรือของแหลมอน ๆ เข้าไปในแอสฟลท์
               ซีเมนต์ที่บรรจุอยู่ในภาชนะ โดยการกดอย่างแรง (แรงดัน 10 ปอนด์) ณ อุณหภูมิปกติ (77 ํ F หรือ      25 ํ C)
               จะปรากฏผลตามแนวทางดังนี้
                              กรณีที่ 1. ตะปูถูกกดเข้าไปได้ง่ายมาก จัดเป็นเกรดอ่อนประมาณ 150 - 300
                              กรณีที่ 2. ต้องใช้แรงกดมากพอสมควร แต่ก็ไม่ยากมากนัก   จัดเป็นเกรดความแข็ง

               ปานกลาง  ประมาณ  85 - 150
                                                     ี
                              กรณีที่ 3. กดตะปูเข้าไปได้เพยงเล็กน้อยด้วยความลำบากมาก  จัดเป็นเกรดแข็ง  ประมาณ
               40 - 85
                      3.4 การเปรียบเทียบขนาดความหนืด   (Viscosity Determination)

                                เป็นการเปรียบเทียบความหนืดของคัทแบคแอสฟลท์ ภายหลังจากการทดสอบการรินในข้อ
                                                                       ั
                                                                                 ั
               3.2 แล้ว วัดสุฯ ตัวอย่างสามารถไหลได้ ทำให้แน่ใจได้ว่า คือ   คัทแบคแอสฟลท์ เราจึงทำการเปรียบเทียบ
                                                                            ั
               ความหนืดโดยประมาณกับวัสดุทั่วไป เช่น น้ำ โดยการรินคัทแบคแอสฟสท์ให้ไหลแล้ว เปรียบเทียบกับน้ำ,
               น้ำเชื่อมใส, น้ำเชื่อมข้น, น้ำเชื่อมข้นส่วนที่ไม่ยอมสลัดตัวเป็นผลึกน้ำตาล (Molasses), โมลาสข้น และ

               ของเหลวเปลี่ยนรูปยาก  (Barely deform)  รายละเอยดการเปรียบเทียบให้ไว้ในรูปที่ 3.1  ซึ่งรวมการ
                                                               ี
               เปรียบเทียบความหนืดของน้ำมันดินไว้ด้วย

                        3.5 การทดสอบการป้าย  (Smear test)

                                     หลังจากที่เราทราบถึงขนาดความหนืดโดยประมาณของคัทแบคแอสฟลท์แล้ว ขั้น
                                                                                                ั
               ต่อไป คือ การพสูจน์ชนิดของมันว่าเป็นชนิดบ่มแข็งตัวเร็ว, ปานกลางหรือช้า โดยการทดลองป้ายตัวอย่างวัสดุ
                             ิ
                                                    ้
               ลงบนกระดาษที่ไม่ดูดซึมน้ำ เช่น กระดาษแกว แล้วทิ้งระยะเวลาให้ปิโตรเลี่ยมที่ผสมอยู่ระเหยออกไป สามารถ
               ทำการทดลองได้สองห้วงเวลา  ห้วงเวลาแรก คือ หลังจากทิ้งไว้ 2-3 นาที คัทแบคแอสฟัลท์ชนิด RC จะเหนียว

               เร็วมากจนจับกระดาษแน่น  ทดลองเอานิ้วแตะจะรู้สึกเหนียว และยกติดนิ้วขึ้นมาได้ ในขณะที่ MC และ SC

               จะยังคงเยิ้มไหลไม่สามารถยกติดนิ้วขึ้นมาได้ การทดลองในห้วงเวลาแรกนี้มีข้อบกพร่อง  คือ อาจผิดพลาดได้
               ง่าย  ถ้าวัสดุนั้นเป็น  MC หรือ SC ที่มีขนาดความหนืดสูง คือ ขนาด 800 หรือ 3,000 เพอความแน่ใจจึงต้อง
                                                                                          ื่
               ตรวจสอบด้านหลังกระดาษด้วย โดยทิ้งไว้นาน ๆ  RC จะไม่ซึมทะลุหลัง กระดาษในขณะที่ MC และ SC จะซึม
               ทะลุ    การทดสอบในห้วงเวลาที่สอง คือ ทิ้งระยะเวลาให้นานกว่า 24 ชม.  ซึ่งจะปรากฎผลเป็นสอง กรณี คือ

                              กรณีที่ 1. ถ้าคัทแบคแอสฟลท์นั้นเป็น RC  มักจะแข็งตัวอย่างสมบูรณ์ก่อน 24 ชม. โดย
                                                     ั
               RC-3000 จะแข็งตัวใน 3 ชม. และ RC-800  จะแข็งตัวใน 6 ชม.
                                                       ั
                              กรณีที่ 2.  ถ้าคัทแบคแอสฟลท์นั้นเป็น MC หรือ SC แม้จะมีขนาดความหนืดสูง เช่น
               MC,SC-800 หรือ  MC, SC-3000  แม้จะเหนียวเร็วภายใน 2-3 นาที      แต่ก็จะไม่แข็งตัวหรือยังคงเยิ้มอยู่

               ภายหลัง 24 ชม.ไปแล้ว
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32