Page 50 - การดาดผิว
P. 50

4
                                                            -
                                                               20
                                     4.2.3.10 ลากเกลี่ยและบดทับ แล้วกวาดมวลรวมที่หลุดลอยทิ้ง

                                     4.2.3.11 แต่งผิวหน้า ถ้าต้องการการกันน้ำเป็นพิเศษ
                              4.2.4 รายละเอียดลำดับชั้นการลงผิวพีนีเทรชั่นแมคคาดัม

                                     4.2.4.1 การปรับปรุงชั้นราก  (Reconditioning the Base Course)    จะต้อง

               ตรวจสอบ ชั้นรากว่ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดทุกประการ   เพราะผิวทางชนิดนี้จะต้องก่อสร้างบนชั้นรากที่
               บดทับได้ที่และมีคุณสมบัติพร้อมเท่านั้น มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาตามมามากมายฝุ่นผงจะต้องถูกกวาดออกอย่าง

               หมดจด  เพอใหัวัสดุฯ ที่ใช้ฉาบก่อนลงผิว  หรือก่อนเพิ่มผิวซึ่งลงยึดผิวหน้าของชั้นรากได้เต็มที่เมื่อก่อสร้างบน
                         ื่
               ผิวทางเดิมก็ควรฉาบเพิ่มผิวด้วย แม้จะไม่จำเป็นนัก
                                     4.2.4.2 การกั้นขอบผิวทาง ( Edge of wearing Surface)   ถ้ามีเวลาพอก็ควรจะมี

                                                                    ่
               การกั้นไม้แบบหรือวัสดุอื่น ๆ กั้นขอบของผิวทางไว้ก่อนเริ่มการกอสร้างวัสดุที่ใช้ได้  2  แบบ คือ
                                            -  ไม้แบบหรือแผงเหล็ก ฯลฯ ความยาวประมาณ 11-12 ฟต กว้างน้อยกว่า
                                                                                             ุ
               ความหนาผิวทาง หลังการ บดทับราว 1/4    และควรมีปริมาณมากพอที่จะวางได้ตลอดความยาวของผิวทางที่
                   ่
               จะกอสร้างในแต่ละช่วงกั้น ไม้แบบนี้ไว้ที่ขอบทางแล้วยึดไว้ด้วยหมุดแล้วถมดินอัดด้านหลังไว้ ความสูงของดินที่
               ถมอัดไว้ควรเท่ากับความ หนาของผิวทางหลังการบดทับ

                                                                                 ั
                                                                                               ุ
                                            -  ใช้ไหล่ทางเป็นแบบ โดยก่อสร้างไหล่ทางอดแน่นกว้าง 2 ฟต  รอไว้ก่อน
               ให้ไหล่ทางมีหน้าตัดด้านในตั้งฉาก และมีความสูงเท่ากับผิวทางที่จะสร้าง
                                     4.2.4.3 การโรยมวลรวมชั้นที่หนึ่ง        (Application of macadum Aggregate)

               หลังจากบ่มยางที่ฉาบก่อนลงผิวได้ที่แล้วก็แบ่งผิวทางออกเป็นช่องที่พอเหมาะแล้วเริ่มโรยมวลรวมชั้นที่หนึ่ง ซึ่ง
               อาจใช้เครื่องโรยมวลรวมติดท้าย, แบบแสวงเครื่อง,ใช้คนโรย หรือดัดแปลง ใช้รถปูลาดบิทูมินัสคอนกรีตก็ได้

                                                                                         ั
               โรยเกลี่ยให้ได้ความหนาอย่างหลวมที่จะให้ความหนาหลังบดทับตามที่ออกแบบไว้อตราส่วนความหนา
               โดยประมาณคือ 3 1/2" ของความหนาอย่างหลวม จะได้ความหนาหลังบดทับ 2 1/2" เมื่อโรยเกลี่ยแล้วก็
                                              ี
               ตรวจสอบมวลรวมที่ไม่ได้ขนาดหรือมคุณสมบัติไม่เหมาะสมทิ้งไป
                                     4.2.4.4 การบดทับชั้นที่หนึ่ง บดทับด้วยรถบดล้อเหล็กชนิดสามล้อ ขนาด 10 ตัน
               บดทับจากที่ต่ำไปหาที่สูง เช่นจากไหล่ทางไปยังกึ่งกลางถนน การบดทับให้ยึดล้อขับ (Power Wheel) นำหน้า

               เสมอ และบดทับซ้ำรอย (Over lap) เท่ากับ 1/2 ของความกว้างล้อ      บดทับจนสังเกตุเห็นว่ามวลรวมไม่นูน

               ขึ้นหรือเคลื่อนตัวขณะบดทับแล้ว แสดงว่าเกิดการขัดตัวกันเองของมวลรวม (Inter Lock) ได้ที่แล้วจึงหยุดบด
               ทับ  ในกรณีที่มีมวลรวมแตกมากอาจใช้รถบดล้อยางได้ ที่ขอบของผิวทางนั้นถ้าไม่มีการกั้นไม้แบบหรือสร้าง

               ขอบไว้  ก็บดทับโดยให้ล้อรถบดครึ่งนอกบดทับไหล่ทางไปพร้อมกับมวลรวม และบดเดินหน้าถอยหลังจนไหล่
                                       ั
               ทางแน่นดีแล้วจึงเริ่มการบดอดส่วนของผิวทางต่อไป ในที่ ๆ รถบดเข้าไม่ถึงให้ใช้เครื่องบดทับขนาดเล็กหรือมือ
               กระทุ้ง มวลรวมที่แตกต้องเก็บออก ทิ้งแล้วเติมมวลรวมใหม่ลงไปแทน  เมื่อบดจนแน่นแล้วให้ตรวจสอบความ

               เรียบร้อย "แผงตรวจสอบ ขนาด 10 ฟุต" (10-foot Straightedge)วางขนานกับแนวกึ่งกลางถนน บริเวณใดที่ม ี
               ความสูงต่างเกิน 3/8" ต้องปรับแต่งแล้วบดทับใหม่
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55