Page 40 - สะพานเครื่องหนุนมั่น
P. 40
4-6
9. การตรวจสภาพพื้นท้องน้ำและความลึก
ื่
ทั้งนี้เพอที่จะนำมาเขียนเป็นภาพหน้าตัดของลำน้ำว่าลึกเท่าใด และมีพนท้องน้ำเป็นดินชนิดใด,แข็ง
ื้
ื่
หรือออนเป็นชั้น ๆ อย่างไร ทั้งนี้เพอผู้ที่จะออกแบบได้กำหนดความสูงต่ำของตะม่อได้ทำให้การเลือกชนิดของ
่
ตะม่อได้เหมาะสมกับสภาพดินพื้นท้องน้ำอย่างถูกต้อง
วิธีการปฏิบัติถ้าเป็นลำน้ำแคบๆจะใช้วิธีขึงเชือกข้ามลำน้ำให้ตึง ถ้าหย่อนตรงกลาง โดยเชือกตก
ท้องช้างก็ต้องหาไม้ค้ำยันให้เป็นแนวระดับ แล้วก็ใช้เจ้าหน้าที่นำลูกดิ่งเป็นระยะๆ ยิ่งสั้นยิ่งละเอยดดี ตาม
ี
แนวเชือกจนถึงพนท้องน้ำโดยมีเจ้าหน้าที่สเก็ตภาพคร่าว ๆ และจดระยะแท้จริงไว้ ว่าเป็นความลึกของท้อง
ื้
น้ำห่างจากจุดเริ่มต้นฝั่งโน้นหรือฝั่งนี้เท่าใด แล้วนำไปเขียนให้ถูกสเกลต่อไป ส่วนชั้นดินนั้นโดยธรรมดา
ถ้าสะพานที่จะสร้างน้ำหนักไม่มากก็ใช้ไม้แหลมกดลงจนกดไม่ลง แล้วนำขึ้นมาดูจะพบรอยโคลนที่ติดไม้เป็น
ระยะเท่าใด เราก็วัดได้ จะรู้ว่าเป็นชั้นดินเหลวก่อนถึงดินแข็ง หนาเท่าใดเป็นระยะๆ ไป ก็สามารถนำมา
เขียนเป็นรูปตัดได้ แต่ถ้าเป็นสะพานที่จะสร้างให้รับน้ำหนักมาก ๆ ก็ต้องใช้เจาะตรวจดินว่าชั้นใดเป็นดินอะไร
มีความสามารถรับน้ำหนักได้เท่าใด เราก็เขียนหน้าตัดของพื้นท้องน้ำเป็นชั้นๆ ได้ ทำให้ผู้ออกแบบสามารถ
จะออกแบบตะม่อได้ถูกต้อง เครื่องหมายที่จะเขียนแทนชั้นดินต่างๆนั้นควรจะใช้ตามแบบข้างล่างนี้
รูปที่ 4.3 สัญลักษณ์ดินชนิดต่าง ๆ
เมื่อเราเจาะดินรู้ว่าพนที่ท้องน้ำเป็นดินชนิดใดแล้วก็จะสามารถทราบได้ว่าดินชนิดนั้นสามารถรับ
ื้
น้ำหนักได้เท่าไร