Page 46 - การพราง
P. 46
4-6
่
ั
6. ทีบังคบการ
้
ี
ี่
ื่
ี
ั
ื
ี่
่
ี่
ทมทตั้งอยูในอาคารของพลเรอนมปญหาของการซ่อนเรนการเคลอนทในตอนกลางวัน และการปกปด
ิ
้
ซ่อนพรางกจกรรมซึ่งกระทาในเวลากลางคืน การเคลอนไหวของหน่วยทหารตองถูกจากัดใหนอยทสุดภายใน
ิ
ี่
้
้
ื่
ื
ี
้
ื่
่
ี
้
ู
ี่
ื
ชุมชนหรออาคารของพลเรอน พยายามใหมการเปลยนแปลงรปรางของตัวอาคารดวยการระบายส เพอทาลาย
ี่
้
ื
ิ
็
่
หลักฐานหรอลบรองรอยของการครอบครองการเปดเผยทตั้งทางทหาร การจัดตั้งโครงสรางขนาดย่อมใหเปน
้
ื
่
ื่
็
ิ
ี่
เสมอนอูซ่อมใหม่ หรออาคารทางพลเรอนอน ๆ เปนการทาใหไม่ก่อใหเกดความสงสัย แต่การเปลยนแปลงใด ๆ
้
้
ื
ื
์
ทสาคัญจะทาใหเกดการติดตามอย่างใกลชิดโดยการตรวจการณทางอากาศของขาศึก เมออาคารถูกทาลายลง
้
ี่
ิ
้
้
ื่
้
ื
็
เปนบางส่วนและคงสิ่งปรกหักพังไว ทตั้งอาจจะไดรบการพรางดวยซากสลักหักพังซึ่งผสมกลมกลนกับความ
้
้
ี่
ั
ั
้
ี่
ุ
ี
้
์
ี่
ี
้
ขรขระ และความไม่รายเรยบของสิ่งแวดลอม ไม เศษไมทแตกหัก ปลาสเตอรและพรมทฉกกระจัดกระจายจะ
เปนเครองช่วยในการปกปดไดอย่างมประสิทธภาพ สิ่งสลักหักพัง อน ๆ มประโยชนรวมทั้ง เศษอิฐ เศษหิน
ิ
์
ี
ี
ิ
ื่
ื่
็
้
ื่
์
ี่
์
เศษโลหะ ยานพาหนะทพังและเครองเฟอรนิเจอรต่าง ๆ
รูปท 4.3 ผงการวางลวดหนามปองกนตนอยางถูกตอง
ั
ั
้
่
ี
่
้