Page 11 - การยุทธข้ามลำน้ำ_merged
P. 11
2 -5
ี
ั
ื
ี
้
ื
้
ั
ฝายขาศึกถอว่าแม่น าเปนเครองกดขวางตามธรรมชาติทช่วยในการตั งรบ ใชสาหรบตานทา
ํ
้
่
ํ
็
้
้
่
้
ํ
ํ
ื
้
ํ
ั
ํ
ํ
้
หน่วยใหญกว่าดวยกาลังนอย ขาศึกสามารถทาการตั งรบหนาแนวลานํ า หรอถัดจากแนวลาน าไป ขางหล
ี
์
้
ั
็
ํ
้
ี
ได แต่ทนิยมใชกคือการตั งรบตามแนวลานํ าทสามารถควบคุมไดอย่างสมบูรณ แต่ทั งน ขึ นอยูกับภูมิประเทศ
ี
้
่
่
ํ
ี
ํ
กาลังทมีอยู และกาลังปะทะ
ั
ํ
้
ํ
ขาศึกจะทาการตั งรบหนาแนวลานํ าเมือภูมิประเทศเก อกูล มีกองหนุนเพียงพอ และมีแผนท ี
้
ื
้
ํ
จะเรมรกในทันททันใด การวางกาลังจะใหล ามาขางหนามากทสุดเท่าทจะทาได โดยจะวางกรมระลอกแรก (
ํ
ี
ิ
้
ํ
ุ
้
ี
้
ี
First - echelon regiments ) ของกองพลในพื นทตั งรบหลัก โดยจัดทีมันตั งรบขั นตนห่างจาก แนวลานํ า
ํ
้
ั
ี
ั
่
้
่
ํ
10 - 15 กม. โดยจะวางกาลังครอมแนวทางเคลอนทหลักของฝายเขาตี เพืออานวยความสะดวกใหกาลัง
ํ
ี
ํ
ื
้
้
ี
กองหนุนตโตตอบ
ั
ํ
ถาใชการตั งรบตามแนวลานํ ามักจะวางกาลังส่วนใหญบนฝงไกลใกลกับลาน ามากทส
้
่
ั
ํ
ี
้
้
ํ
ํ
ํ
ํ
ี
้
ื
้
ํ
ํ
เท่าทภูมิประเทศเอ ออานวย กาลังส่วนน จะทาการป้องกันท่าขาม และทาลายกาลังฝายเราในขณะขามให ้
ี
่
ํ
ี
้
้
มากทสุด ลักษณะการวางกาลังคลายกับการตั งรบหนาแนวลานํ า ต่างกันทระยะห่างระหว่างกรมระลอกแร
ํ
ั
ี
ํ
ี
้
้
ี
้
กับกรมระลอกทสองจะนอยกว่า ซึ งทาใหปรมาณการยิงมายังท่าขาม และมีกาลังทจะทาฝายเราทขามไป
ิ
้
ี
ํ
ํ
่
ํ
่
้
แลวไดมากกว่า ฝายตรงขามจะใชทหารช่างทาลายสะพานทอยูในพื นทและวางทุนระเบิดไวตามท่าขาม
้
ํ
ี
่
้
ี
้
้
่
้
ี
่
้
้
ื
ี
้
ต่าง ๆ จะเหลอไวเพียงท่าขามทจะตองใชในการถอนตัวของส่วนระวังป้องกัน นอกจากน ทหารช่างฝายตรง
้
ํ
ํ
ิ
็
ื
้
ี
ื
้
ี
ขามกจะวางเครองกดขวางตามเสนทาง และตามทางเคลอนทตามบรเวณตลิ งในลาน า ตามแต่เวลาจ
ํ
้
ี
้
้
่
อานวยให กรมระลอกแรกจะทาการขัดขวางการขามต่อกาลังฝายเรา ณ บรเวณท่าขาม หรอในขณะทกาลัง
ิ
ื
ํ
ํ
ํ
้
่
ํ
ขามเพือป้องกันมิใหฝายเราสถาปนาหัวสะพานไดสาเรจ กองพันระลอกสองของกรมระลอกแรกจะวางกาลัง
ํ
้
้
็
ํ
ครอมเสนทางออกจากลาน า และยับยั งการบุกขามเพือใหหน่วยตโตตอบเขาทาลาย กรมระลอกสองจะวา
้
้
้
ี
่
ํ
ํ
้
้
กาลังห่างจากระลอกแรกประมาณ 4 - 5 กม. และมักจะทาการตีโตตอบในพื นทน ี
ํ
้
ํ
ี
ขาศึกทาการตั งรบห่างออกไปจากแนวลานํ ากต่อเมือเวลา และภูมิประเทศไม่เก อกูลใหกา
ํ
ื
้
ั
็
ํ
้
ตั งรบดวยวิธการออกแบบทกล่าวมาแลว การตั งรบแบบน จะใชส่วนระวังป้องกันวางไวบรเวณฝงไกลเพือ
ั
้
ั
ิ
้
ี
ี
ั
ี
้
้
รบกวนและทาใหกาลังบุกขามเสยระเบยบ เพือใหกาลังส่วนใหญ่มเวลาสถาปนาการตั งรบไดทัน ขด
้
้
ี
้
ี
ี
ํ
ั
ํ
้
ํ
ี
ความสามารถทสาคัญของฝายตรงขามในการขัดขวางการขาม คือ การใชปนใหญ ดังนั น การกาจัด
้
่
้
่
้
ี
ื
ํ
ํ
การตรวจการณก่อนจะมีการติดตั งสะพานยังไม่เพียงพอ เพราะการยิงอย่างหนาแน่นบรเวณท่าขามสะพาน
ิ
้
์
และแพ แมไม่มการตรวจการณกอาจทาความเสียหายแก่สะพาน และแพได จึงตองมีแผนการยิงต่อตาน
์
้
้
ี
้
้
็
ํ
ื
้
่
ปนใหญไวในขั นการติดตั งแพ และสะพานดวย
้
ุ
3.2 การรกขามลํานํ าของขาศึก ( Threat Offensive River )
้
้
ํ
ํ
ขดความสามารถในการรกขามลาน าของฝายตรงขามจะมีผลต่อการรนถอยขามลาน าของ
ํ
ี
ํ
่
้
ุ
่
้
้
่
่
้
ฝายเราในการไล่ติดตาม ขาศึกนิยมใชการกดดันโดยตรง และการโอบลอมควบคูกัน ฝายเราควรพิจารณา
่
้
้
ี
้
้
ํ
ี
่
้
้
ความสามารถของขาศึกทจะทาการขามทางปกก่อนทฝายเราจะทาการขามไดสาเรจ
ี
ํ
ํ
็