Page 10 - วิชาการพราง
P. 10

1-1


                                                         บทที่ 1

                                             วัสดุพราง และเทคนิคการใช


               1. กลาวนํา
                      ในพื้นที่การรบวัสดุหรือเครื่องใชที่จะนํามาทําการสรางเปนเครื่องพรางสวนมากแลวจะไดมาจาก
               ธรรมชาติในทองถิ่นหรือในบริเวณใกลเคียงเทาที่วัสดุเหลานั้นจะอํานวยและพรอมที่จะนํามาใชไดแตอยางไรก็

               ตามการดัดแปลงหรือการพยายามใชธรรมชาติเปนเครื่องพรางใหไดประโยชนมากที่สุดจะเปนการลดปริมาณ
               เครื่องพรางที่จะตองลําเลียงมาจากสวนหลังไดเปนอยางมาก

               2. วัสดุพราง
                      วัสดุพรางในสนามแบงออกไดเปน 2 ประเภทใหญ ๆ คือวัสดุพรางธรรมชาติและวัสดุพรางที่สรางขึ้น


                      2.1 วัสดุพรางธรรมชาติ
                              สวนมากจะใชประกอบกับวัสดุพรางที่สรางขึ้นเพราะทําไดในภูมิประเทศโดยมี"สี"และ"เนื้อ
               ผิว"เขากับภูมิประเทศในบริเวณนั้นอยูแลว  เมื่อใชใหถูกตองและเหมาะสมก็จะสามารถปองกันการตรวจการณ
               ดวยสายตาและถายภาพได    แตวัสดุพรางธรรมชาติบางชนิดตองทําการบํารุงรักษาตลอดเวลา  อาจมีการ

               เปลี่ยนแปลงไปไดตามฤดูกาลหรือตามสภาพดินฟาอากาศ วัสดุพรางธรรมชาติแบงออกไดเปน 3 ชนิด คือ

                              2.1.1 พืช
                                     ไดแกพืชลมลุก หญา ไมเถา และพืชยืนตน  วัสดุพรางชนิดนี้เหมาะที่จะใชทําเครื่อง
               พรางโดยทั่ว  ๆ  ไป  โดยเฉพาะการพรางที่ตั้งถาวรหรือกึ่งถาวร      การเลือกที่ตั้งที่มีตนไมพุมใบใชอาศัยในการ
               ซอนพราง  หรือจากการนําพืชมาปลูกเพื่อเปนเครื่องพรางที่ตั้งตาง  ๆ  ไดนอกจากนั้นกิ่งไมหรือสวนใดสวนหนึ่ง

               ของตนไม  สามารถตัดมาใชประกอบเปนเครื่องพรางได  แตตองมีการเปลี่ยนอยูเสมอ  เนื่องจากจะมีการเหี่ยว
               เฉาและเปลี่ยนสีตลอดเวลา  โดยปกติดานบนของใบไมจะมีสีเขมเปนมัน  ใตใบไมจะมีสีออนและหยาบ  ฉะนั้น
               เมื่อจะนํามาใชประกอบเปนเครื่องพรางตองจัดวางใหเหมือนธรรมชาติ คือใหกิ่งไมยื่นออกภายนอกและตองเขา

               กับธรรมชาติเดิมดวย       ไมจําเปนตองวางใหทึบเพื่อปดบังที่ตั้งอาวุธยุทโธปกรณเสียทั้งหมดแตควรวางให
               กลมกลืนกับธรรมชาติและลบรอยเสนตรงของสิ่งที่ทําการพรางตามความเหมาะสม

                              2.1.2 สิ่งที่ไมมีชีวิตปกคลุมผิวดินอยู
                                     ซึ่งไดแก ดินโคลน, ทราย, กอนหิน, กรวดเปนตน  สิ่งตาง ๆ เหลานี้ใชสําหรับเปลี่ยน

               หรือเพิ่มสี ทําใหเกิดผิวหยาบ  ทําใหไมเห็นจุดเดนใชสรางใหเปนเงาและรูปราง  เชน    ใชดินโคลนทาผิวที่เปน
               มันใหเปนผิวหยาบดาน ใชผสมสีทายานพาหนะหรือใชทรายโรยบนผาใบเปนตน

                              2.1.3 สิ่งชํารุดหักพัง
                                     ไดแก  กําแพงพัง,  อาคารบานเรือนพัง,  รถพัง  หรือยุทโธปกรณที่พังแลวจนไม
               สามารถนํามาซอมใหคืนสภาพได  แตรูปรางภายนอกยังดีอยูบางสามารถนํามาใชเปนเครื่องพรางและเครื่อง

               ลวงไดดี

                      2.2 วัสดุพรางที่สรางขึ้น
                              วัสดุพรางที่สรางขึ้นมี 2 ประเภท วัสดุพรางที่สรางขึ้นสําเร็จรูปและวัสดุพรางที่สรางขึ้นใชในสนาม

                              2.2.1 วัสดุพรางที่สรางขึ้นสําเร็จรูป
                                     ประกอบดวย ตาขายพราง พืชพันธุไมเทียมแถบผาพรางและสีพราง
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15