Page 17 - การพราง
P. 17
2-1
บทท 2
ี่
การพรางบุคคล
1. การพรางบุคคล
1) การพรางบุคคลกระท าเพื่อปกปิดซ่อนเร้นตัวทหารในขณะปฏิบัติการรบ เพื่อการจู่โจมและ ยัง
เป็นการลวงให้ข้าศึกหลงผิดกับการใช้กลอุบายต่อข้าศึก การพรางบุคคลจะได้ผลดียิ่งขึ้นถ้ารู้จักเลือกใช้ ภูมิ
ประเทศ รู้จักการดัดแปลงเสื้อผ้า ให้กลมกลืนกับภูมิประเทศในระหว่างการเคลื่อนที่ ควรเลือกเส้นท างเพื่อการ
ซ่อนเร้นให้มากที่สุดควรได้มีการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติการพรางอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความเคยชิน
2) การปฏิบัติการพรางบุคคลถูกออกแบบเพื่อใช้ลวงข้าศึก ที่มีการตรวจการณ์ทางภาคพนดิน
ื้
และทางอากาศ ในสงครามสมัยใหม่ข้าศึกได้ใช้ภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อหาข้อมูลส าหรับปฏิบัติภารกิจตาม
จุดประสงค์ เพราะฉะนั้นการกระท าตนตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของตนให้กลมกลืนกับลักษณะ
ภูมิประเทศที่ปฏิบัติการอยู่นั้น เป็นสิ่งพึงประสงค์ของการปฏิบัติการในสนามรบประการหนึ่ง
3) การพรางที่มีประสิทธิภาพของแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ ฉากหลังเป็นสิ่งส าคัญมากจะ ต้อง
้
พยายามเลือกหาลักษณะภูมิประเทศที่มีลักษณะปกปิดก าบังเช่นต้นไม,พุ่มไม้,กอหญ้าสูง,ก้อนหินใหญ่ เป็นต้น
นอกจากนี้ ควรจะต้องระลึกเสมอว่าถึงแม้จะได้พยายามใช้สิ่งปกปิดก าบังที่มีอยู่ตามธรรมชาติแล้วก็ตามจะต้อง
ระมัดระวังอย่าให้เครื่องแต่งกายของตนตัดกับฉากหลัง แต่ถ้าจ าเป็นก็ควรจะพรางตัวให้กลมกลืนกับฉากหลัง
ด้วย
2. การพรางหมวกเหล็ก
หมวกเหล็กนับว่าเป็นสิ่งส าคัญชิ้นแรกที่จะต้องท าการพรางก่อนสิ่งอนใดในการปฏิบัติการรบ
ื่
ดังนั้น จะต้องมีการตรวจการณ์อยู่ตลอดเวลาถึงแม้ว่าจะอยู่ในที่ก าบังก็ตาม และจะต้องยื่นศีรษะออกมาตรวจ
การณ์ค้นหาข้าศึกดังนั้นข้าศึกก็จะมองเห็นหมวกเหล็กก่อนเป็นสิ่งแรกวิธีการพรางหมวกเหล็กมี 6 วิธีดังนี้คือ
(ภาพที่ 2.1)
1)ใช้สายยางรัดหรือสายรัดแบบแสวงเครื่องจากสายรัดรองในเก่า ๆ หรือแถบผ้ารัดกับ
วัสดุพรางตามธรรมชาติ
2) เจาะรูที่ผ้าคลุมหมวกเหล็กเพื่อใช้เสียบวัสดุพรางตามธรรมชาติ
3) ผูกผ้ากระสอบให้เป็นรูปคล้ายโบว์หูกระต่าย แล้วสอดเข้าไปในรอยเจาะของผ้าคลุมหมวกเหล็ก
4) ท าให้เงาของหมวกเหล็กลดน้อยลง
5) ท าให้ลวดลายบนผ้าคลุมหมวกเหล็กหมดไปก่อนที่จะสอดกิ่งไม้ หรือใบไม้เข้าไป
6) ใช้สีทาเป็นลวดลายพาดบริเวณส่วนโค้งของหมวกเหล็กตรงส่วนที่มองเห็นได้จากด้านหน้า