Page 33 - การพราง
P. 33
3-1
บทท 3
ี่
การพรางบุคคล และป้อมสนาม
1. การพรางบุคคล
1) การพรางบุคคลกระท าเพื่อปกปิดซ่อนเร้นตัวทหารในขณะปฏิบัติการรบ เพื่อการจู่โจมและยังเป็น
การลวงให้ข้าศึกหลงผิดกับการใช้กลอุบายต่อข้าศึก การพรางบุคคลจะได้ผลดียิ่งขึ้นถ้ารู้จักเลือกใช้ภูมิประเทศ รู้จัก
การดัดแปลงเสื้อผ้าให้กลมกลืนกับภูมิประเทศในระหว่างการเคลื่อนที่ ควรเลือกเส้นทางเพื่อการซ่อนเร้นให้มาก
ที่สุด ควรได้มีการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติการพรางอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความเคยชิน
2) การปฏิบัติการพรางบุคคลถูกออกแบบเพื่อใช้ลวงข้าศึก ที่มีการตรวจการณ์ทางภาคพื้นดินและ
ทางอากาศ ในสงครามสมัยใหม่ข้าศึกได้ใช้ภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อหาข้อมูลส าหรับปฏิบัติภารกิจตามจุดประสงค์
เพราะฉะนั้นการกระท าตนตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของตนให้กลมกลืนกับลักษณะ
ภูมิประเทศที่ปฏิบัติการอยู่นั้น เป็นสิ่งพึงประสงค์ของการปฏิบัติการในสนามรบประการหนึ่ง
3) การพรางที่มีประสิทธิภาพของแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ ฉากหลังเป็นสิ่งส าคัญมากจะต้อง
้
พยายามเลือกหาลักษณะภูมิประเทศที่มีลักษณะปกปิดก าบัง เช่น ต้นไม , พุ่มไม้,กอหญ้าสูง, ก้อนหินใหญ่เป็นต้น
นอกจากนี้ควรจะต้องระลึกเสมอว่าถึงแม้จะได้พยายามใช้สิ่งปกปิดก าบังที่มีอยู่ตามธรรมชาติแล้ว
ก็ตาม จะต้องระมัดระวังอย่าให้เครื่องแต่งกายของตนตัดกับฉากหลังแต่ถ้าจ าเป็นก็ควรจะพรางตัวให้กลมกลืนกับ
ฉากหลังด้วย
2. การพรางหมวกเหล็ก
หมวกเหล็กนับว่าเป็นสิ่งส าคัญชิ้นแรกที่จะต้องท าการพรางก่อนสิ่งอื่นใดในการปฏิบัติการรบนั้นจะต้องมี
การตรวจการณ์อยู่ตลอดเวลาถึงแม้ว่าจะอยู่ในที่ก าบังก็ตามและจะต้องยื่นศีรษะออกมาตรวจการณ์ค้นหาข้าศึก
ดังนั้นข้าศึกก็จะมองเห็นหมวกเหล็กก่อนเป็นสิ่งแรกวิธีการพรางหมวกเหล็กมี 6 วิธีดังนี้คือ(ภาพที่ 3.1)
1)ใช้สายยางรัดหรือสายรัดแบบแสวงเครื่องจากสายรัดรองในเก่า ๆ หรือแถบผ้ารัดกับ
วัสดุพรางตามธรรมชาติ
2) เจาะรูที่ผ้าคลุมหมวกเหล็กเพื่อใช้เสียบวัสดุพรางตามธรรมชาติ
3) ผูกผ้ากระสอบให้เป็นรูปคล้ายโบว์หูกระต่าย แล้วสอดเข้าไปในรอยเจาะของผ้าคลุมหมวกเหล็ก
4) ท าให้เงาของหมวกเหล็กลดน้อยลง
5) ท าให้ลวดลายบนผ้าคลุมหมวกเหล็กหมดไปก่อนที่จะสอดกิ่งไม้ หรือใบไม้เข้าไป
6) ใช้สีทาเป็นลวดลายพาดบริเวณส่วนโค้งของหมวกเหล็กตรงส่วนที่มองเห็นได้จากด้านหน้า