Page 17 - คอนกรีตเสริมเหล็ก
P. 17

1-3

                                             ์
                                      ี
                    ี
               จะมปริมาณของซเมนตเพสตประมาณ 23  -  40  %  โดยปริมาตร ใน
                                                    ์
                        ซีเมนต์เพสต์จะมปริมาตรของปูนซีเมนต์
                                             ี
               3 - 15 % น้ า 14 - 21 % และปริมาตรของอากาศที่แทรกอยู่ในช่องว่าง
                        ประมาณ 8 %

                                                                                        ั
                               หน้าที่หลักๆ ของซเมนตเพสต คือ  เป็นตวยึดวัสดุมวล
                                                                        ์
                                                                ์
                                                         ี
               รวมเข้าด้วยกัน
                        3.1.2 คุณภาพของซีเมนต์เพสต์

                                                  ี
                                                         ์
                               คุณภาพของซเมนตส่วนใหญ่ดูที่ก าลัง  (Strength)  เป็น
                                                                                                   ี
                                                                                               ่
                                                ์
                                         ี
                                                       ์
                                                                        ั
               หลัก       ก าลังของซเมนตเพสตจะขึ้นอยู่กับอตราส่วนของน้ าตอซเมนต
                                                                                                          ์
               (Water/Cement  ratio)     โดยถ้าอตราส่วนน้ าตอซเมนตมาก (น้ ามาก
                                                             ั
                                                                                         ์
                                                                              ่
                                                                                  ี
                                                                                           ั
               ปูนน้อย) ก าลังของซีเมนต์เพสต์ก็จะน้อย ในทางกลับกันถ้าอตราส่วนน้ า
                            ์
                 ่
                     ี
                                                                                           ์
                                                                                    ์
               ตอซเมนตน้อย (น้ าน้อย ปูนมาก)  ก าลังของซเมนตเพสตจะมากตาม
                                                                             ี
               ฉะนั้น การควบคุมปริมาณน้ าที่ใช้ในการผสมคอนกรีตจึงเป็นเรื่องส าคัญ
                                                                                                     ่
                                             ้
               ที่สุด การเพิ่มน้ าเพื่อใหคอนกรีตเหลวขึ้น ท างานได้ง่ายขึ้น โดยไมเพิ่ม
               ปูนซีเมนต์ด้วยจะท าให้คอนกรีตที่ได้มีคุณภาพต่ ากว่าที่ต้องการ
                        3.1.3 ปฏิกิริยาระหว่างน้ าและปูนซีเมนต์
                                                                      ์
                                                               ี
                               เมอน าน้ ามาผสมกับปูนซเมนต      จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี
                                  ื่
                        ที่เรียกว่า ปฏิกิริยาไฮเดรชั่น
                                                                                                ี
                                                     ี
                                                            ์
                                                                                  ็
                                               ้
                                  ึ่
               (Hydration) ซงจะท าใหปูนซเมนตแปรสภาพจากเมดเล็กละเอยด เป็น
                                                    ิ
                         ี
                                                                          ึ่
               วัสดุที่มลักษณะคล้ายเจลาตน (หรือวุ้น)  ซงจะค่อย  ๆ แข็งตวขึ้น
                                                                                                    ั
                                                ี
               ตามล าดับ ตราบเท่าที่ยังมน้ าเข้าท าปฏิกิริยาอยู่ นั่นคือปฏิกิริยาทางเคม                   ี
                                                                                            ้
               ระหว่างปูนซเมนตกับน้ าจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเริ่มตนตอนแรก
                                ี
                                       ์
               และจะช้าลงตามล าดับในตอนหลัง ดังนั้น  ปฏิกิริยาไฮเดรชั่นจะเกิดขึ้น
               มากหรือน้อยเพียงใด  ขึ้นกับปริมาณน้ าที่มอยู่ในคอนกรีตนี่เอง  ที่
                                                                          ี
               หลังจากที่เทคอนกรีตและถอดแบบแล้ว ตองท าการบ่มคอนกรีตทันที
                                                                      ้
                                                                                         ์
               จดประสงค์ก็คือ เพื่อใหมน้ าเข้าท าปฏิกิริยากับปูนซเมนตตลอดไมขาด
                                                                                                    ่
                                                                                  ี
                 ุ
                                             ้
                                               ี
               ตอน
                                                                                                ้
                                         ์
                               ผลลัพธของปฏิกิริยาไฮเดรชั่น  นอกจากจะท าใหซเมนต                            ์
                                                                                                   ี
                                             ี
               เพสตแข็งตวแล้ว  ยังมความร้อนที่ถูกปล่อยออกมาด้วย   ความร้อนที่
                      ์
                              ั
                                                                                                      ่
               เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาไฮเดรชั่น (Heat  of  Hydration)  จะระบายผาน
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22