Page 45 - สะพานเครื่องหนุนลอย
P. 45
3-14
14.4.1 ไม้หมอนกันล้อ
สำหรับแพที่บรรทุกรถคันเดียวให้ใช้ไม้หมอนกันล้อที่ล้อหน้า และล้อหลัง
่
สำหรับรถที่มีรถพ่วงมาด้วย ให้วางไม้หมอนไว้ที่ล้อหน้าและล้อหลังของรถลากจูงเทานั้น ถ้าบรรทุกรถสองคัน
หรือมากกว่าให้วางไม้หมอนกันล้อที่ล้อหน้าของรถคันหน้าและที่ล้อหลังของรถคันหลัง (ถ้าต้องการให้แน่นอนก็
ให้วางหมอนกันล้อทก ๆ คัน)
ุ
14.4.2 การเคลื่อนที่จากฝั่ง
เมื่อพนักงานสายหนวดพราหมณ์อยู่บนแพแล้ว ให้พลประจำเครื่องยนต์ดันแพ
บังคับให้ท้ายแพเข้าหาฝั่ง และเมื่อบ่ายหัวแพออกแล้ว ก็ให้บังคับท้ายแพกลับ และให้ทุ่นทำมุมกับกระแสน้ำ
ตามต้องการ
14.4.3 ในการข้ามลำน้ำ
ระหว่างแพทำการข้ามลำน้ำ พลประจำเครื่องยนต์ดันแพจะต้องเบนหัวแพ ให้
ึ
พอเหมาะ เพื่อที่จะทำให้แพเคลื่อนที่ไปทวนน้ำและล่องมาทางท้ายน้ำด้วย จนกระทั่งถงท่าเทียบส่งขึ้นทาง
ท้ายน้ำ มุมที่ตอนหัวแพกระทำกับกระแสน้ำขึ้นอยู่กับความเร็วของกระแสน้ำ ซึ่งมุมที่มาก ที่สุดประมาณ
30 องศา ใช้กับกระแสน้ำภายใน 5 ฟุต/วินาที ( 1.5 เมตร/วินาที) และถ้าความเร็วกระแสน้ำเพิ่มมากขึ้น
มุมของทุ่นของแพที่ทำมุมกับกระแสน้ำจะต้องลดลง ต้องระมัดระวังอย่าให้มุมเกินกว่า 30 องศา ในเมื่อ
กระแสน้ำไหลแรงเกินกว่า 1.5 เมตร/วินาที อาจเป็นเหตุให้กระแสน้ำตีแพหมุนกลับได้ เมื่อทำการบังคับแพที่
เคลื่อนที่ไปตามกระแสน้ำที่ไหลแรงไม่ได้แล้วจะเป็นผลทำให้ของที่บรรทุกเสียหาย, แพเสียหาย, และคน
เสียหายได้ ในขณะทำการข้ามลำน้ำ พนักงานต้องอยู่ที่สมอน้ำเพื่อเตรียมพร้อมที่จะโยนสมอลงน้ำ เพื่อยึด
แพ เมื่อเครื่องยนต์ดันแพดับหรือไม่อยู่ในอำนาจที่บังคับได้
14.5 วิธีการเทียบท่าและส่งขึ้นฝั่ง
การเทียบท่าต้องเทียบท่าทางเหนือน้ำก่อน เมื่อเทียบท่าเรียบร้อยแล้วก็ให้แพถัดไปทาง
ท้ายน้ำเข้าเทียบ เมื่อแพสัมผัสกับท่าเทียบให้พวกสายหนวดพราหมณ์ทางฝั่งไกลขึ้นจากแพ และนำสาย
หนวดพราหม์ไปผูกกับสมอบกอย่างรวดเร็ว อย่าเพิ่งให้ยานพาหนะที่บรรทุกเคลื่อนที่ขณะเมื่อการโยงยึด
สายหนวดพราหมณ์ยังไม่เรียบร้อย ถ้าตะม่อตลิ่งสูงกว่าแนวพื้นแพเล็กน้อยก็ให้ยานพาหนะบนแพเคลื่อนที่ถอย
หลังเพื่อให้ปลายแพเข้าพาดบนตะม่อตลิ่งนั้นได้ ยานพาหนะทขึ้นจากแพนี้ต้องมีพลนำทางให้
ี่
สัญญาณ