Page 26 - ประปาสนาม
P. 26
3-2
ออกซิเจนทสาหรายคายออกมา สัตวน้าจาพวกปลาและอน ๆ จะอาศัยออกซิเจนด ารงชวิตอยู ่
๊
ี
๊
์
ี่
ื่
่
ี
์
์
้
ิ
็
ี
้
ี
ได พรอมทั้งกนจุลินทรยและแมลงเปนอาหาร ดังน้จุลินทรยจะลดลงอย่างมาก แต่อย่าคิดว่าน้านั้นปลอดภัย
ื
้
แลวเพราะเช้อโรคบางชนิดยังไม่ตายหมด
่
1.2 แหลงน้านง
ิ
่
ี
ี่
เช่น ทะเลสาบ, อ่างเกบน้า, สระน้า หรอ แหล่งน้าอน ๆ ทมลักษณะคลายคลึงกันกม ี
ื
ื่
็
้
็
การทาความสะอาดตัวเองไดคลาย ๆ กันกับทกล่าวมาแลว แต่มอกวิธหนึ่ง ทใชการหมุนเวยนตามฤดูกาล
้
้
ี่
้
ี
ี
้
ี
ี่
ี
้
ี
ทาความสะอาดได เช่น แหล่งน้านิ่งไม่มโอกาสถ่ายเทได แต่พอถึงฤดูฝนควรปล่อยใหน้าฝนไหลลงอย่างแรง
้
้
ี
้
ๆ น้าฝนทไหลลงไปใหม่น้จะช่วยดันน้าเก่าใหลนออกและเขาไปแทนท ี่ กนับเปนวิธการทาความสะอาดน้า
ี
้
็
ี่
็
้
ี
้
ไดวิธหนึ่ง
2. การตกตะกอน (ธรรมชาติ)
ี่
ี
้
การตกตะกอน ในทน้หมายถึง การปล่อยใหน้าตกตะกอนเองตามธรรมชาติ ซึ่งบางแห่งกตกตะกอน
็
้
ี
่
ื
ี่
้
์
ี่
็
็
ไดเรว บางแห่งกตกตะกอนไดชา ทั้งน้ขึ้นอยูกับสิ่งทเจอปนมากับน้า และสิ่งทมนุษยสรางขึ้นมาช่วย เช่น
้
้
ี่
้
่
2.1 การปล่อยใหน้าอยูนิ่ง ๆ และ นาน ๆ สิ่งทลอยปะปน (แขวนลอย) อยูในน้าจะตกลงสูพ้นทองน้า
้
ื
่
่
้
ทาใหน้าใสได
้
2.2 จากการขุดคูใหน้าไหลลงสูอ่างเกบน้า ขณะทน้าไหลจะเกดแรงเสยดทานกับตลิ่งทาใหน้าหมุน
้
ี
ิ
ี่
่
็
้
้
้
วนขึ้น เปนการผสมกรดกับด่างทมอยูในน้า จะทาใหน้าตกตะกอนได
ี่
ี
็
่
ี
้
ี
้
็
้
ี่
ี่
้
การตกตะกอนน้เปนวิธทช่วยเจาหนาทประปาไดบางเล็กนอยเท่านั้น
้
ั
่
3. การใชสอตะกอน (เรงธรรมชาติ) (ดูภาพแผนผงการประปาสนามหนา 63)
้
ื
้
่
ื่
ี
้
้
้
็
การใชสอตะกอน คือ เปนการกระทาใหน้าใสก่อนกรองวิธหนึ่ง คลาย ๆ กับ การตกตะกอนแต่
ื่
ี
้
ื่
ี
ื่
็
ี
็
ี
วิธการใชสอชักตะกอนน้เปนวิธเรงธรรมชาติ คือ เปนวิธทเพิ่มสอชักตะกอนลงไปในน้าเพอใหน้าใสเรวขึ้น
้
่
็
ี่
ิ
้
และทาใหการกรองมีประสิทธภาพยิ่งขึ้น
ี
้
การใชสอชักตะกอนในการประปาสนาม หมายถึง การนาเอาสารเคมเพิ่มลงไปในน้าตามอัตราส่วน
ื่
้
เพอแยกเอาอนุภาคทลอยปะปน (แขวนลอย) อยูในน้า ตั้งแต่ขนาดใหญจนถึงขนาดเล็ก ออกจากน้าถาเปน
็
ื่
่
่
ี่
่
ี่
้
ั
่
้
อนุภาคขนาดใหญจะตกตะกอนง่ายกว่าอนุภาคขนาดเล็ก และความขุนทสรางปญหาใหกับการประปา
ิ
ี
ี่
สนามอย่างมาก มักเกดขึ้นจากอนุภาคทมขนาดเล็กมาก ทเรยกว่า "อนุภาคคอลลอยด" (Colloidal particle)
ี
ี่
์
้
ดวยเหตุทกล่าวแลวขางตน จึงตองมีการกระทาเพอใหอนุภาคทลอยปะปน (แขวนลอย)อยูในน้า
ื่
้
้
ี่
้
้
้
่
ี่
็
้
รวมตัวกันเปนกอนทเราเรยกว่า "ฟลอค" (Floc) และมีน้าหนักพอทจะตกลงกนถังดวยขบวนการ "โคแอค
้
ี่
ี่
้
ี
กูเลชั่น" (Coagulation)