Page 35 - ป้อมสนาม
P. 35
2-5
้
6. การออกแบบโครงสรางแบบธรรมดา
ื
้
้
ิ
้
ื
หลังจากเลอกว่าจะใชแบบผิวดิน แบบโพรงหรอแบบขุดและปดแลวขั้นต่อไป จะตองพิจารณาว่า
้
้
็
จะออกแบบโดยใชโครงสรางแบบใด แบบบากไม และแบบเสาคานกับตงเปนแบบทใชมากทสุด ปอม
ี่
้
ี่
้
้
้
้
็
็
สนามแบบบากไมสรางไดรวดเรว และไม่อึกทึก ถาชิ้นส่วนเหล่านั้นบากไวล่วงหนาแลวอย่างไรกตามแบบ
้
้
้
้
้
็
ี่
็
้
ี่
้
เสาคานกับตงเปนแบบทมักนิยมใช เพราะเปนแบบโครงสรางทแข็งแรงกว่าและประหยัดกว่า
ึ่
้
ถาใชไมกลมในการสรางแบบบากไม่ควรใชบากครงหนึ่ง เพราะจะทาใหหนาตัดของไมหายไป
้
้
้
้
้
้
้
ื
้
ี
้
้
ึ่
ครงหนึ่ง ควรใชบากแบบ 1 ใน 4 ซึ่งหนาตัดเน้อไมจะหายไปเพยงประมาณ 1 ใน 3 เท่านั้น
้
้
ถาใชไมเหลยม อาจบาก 1/4 หรอ 1/2 กได ถาไม่มไมใหญกสามารถใชไมกระดานซึ่งแผ่นเล็กกว่า
็
้
ี
็
้
้
้
ี่
้
่
้
ื
้
้
ึ
ี
ี
้
่
้
ี
็
้
ตอกตะปูติดเขาดวยกันใหเปนชิ้นส่วนขนาดใหญ วิธน้เรยกว่า การสรางแบบซอนไมตรงติดเขาดวยกัน
้
้
้
้
ี่
็
้
ี่
จงจาไวว่ามิไดเปนการบังคับว่าท่านจะตองออกแบบตามแบบทกล่าวมาขางบน แต่แบบทท่าน
้
้
้
้
้
้
ี่
ตัดสินตกลงใจ ควรจะใหไดตามความตองการของปอมสนามเช่นเดียวกับทกล่าวขางบน
้
่
ี
ี
รูปท 2.6 การบากไมกลม รูปท 2.7 การบากไมเหลยม
้
้
่
่
ี
ั
7. การออกแบบเกียวกับน้าหนกและแรงเคน
่
้
ี่
ี่
้
ี่
ค ากล่าวทว่า " มันขึ้นกับสถานการณ " น้ย่อมใชกับการสรางทพักกาบัง ทตั้งอาวุธ และคูทมั่น
ี
้
ี่
์
ี่
เช่นเดียวกับปจจัยอน ๆ ของการสงคราม ทหารช่างจะตองสามารถออกแบบทตั้งอาวุธหรอทพักกาบังให ้
ื
้
ี่
ื่
ั
ี
ิ
้
ี่
้
้
้
้
่
ื่
่
เหมาะกับความตองการของผูอยู โดยใชวัสดุแรงงาน เครองมือทมอยูและจะตองคิดถึงปรมาณการปองกัน
ื
้
้
ี่
้
พอสมเหตุสมผลมากกว่าทจะใหปองกันไดโดยสิ้นเชิง การปองกันนั้นเราค านวณหรอคะเนเอาจาก
้
ความสามารถของขาศึก และกระสุนหรอลูกระเบิดทอาจจะถูกการปองกันโดยสิ้นเชิงมักเปนสิ่งทเปนไปได ้
ี่
็
ี่
้
็
้
ื
และไม่เปนสิ่งพึงปรารถนา เพราะเหตุว่าการปองกันทตองการเพิ่มขึ้นมักทาใหความสามารถในการปฏบัติ
ี่
้
็
้
้
ิ
หนาทของทตั้งนั้นลดลง หรอมักเปดเผยทตั้งดวย
้
ี่
ิ
ี่
้
ี่
ื