Page 67 - การวางแผน
P. 67
5-8
่
5.4 หมายเลขประจ าหนวยงาน
่
่
ี
ี
่
วงกลมทคั่นระหวางหนวยงาน และจะมีค่า i - j ก ากับอยู่ ตัวเลขค่า I และค่า J น้ไม่มีความหมาย
ใด ๆ นอกจากจะชวยระบุต าแหนงของหนวยงาน และชวยแสดงถึงความสัมพันธ์ของหนวยงานด้วย
่
่
่
่
่
ั
์
่
5.4.1 ความสมพันธของหนวยงาน B
7
A
3 5
C
10
จากผังหนวยงานข้างบน ถ้าจะกล่าวถึงความสัมพันธ์ อาจจะกล่าวได้ว่า
่
ื
5.4.1.1 A จะต้องท างานก่อน B และ C หรอ
่
็
ิ
5.4.1.2 B และ C จะเร่มท างานเมือ A ท างานเสรจ
5.4.1.3 หนวยงาน A มีค่า i = 3 และค่า j = 5 อาจเขียนว่า A (3 - 5)
่
่
5.4.1.4 หนวยงาน B มีค่า i = 5 และค่า j = 7 อาจเขียนว่า B (5 - 7)
่
5.4.1.5 หนวยงาน C มีค่า i = 5 และค่า j = 10 อาจเขียนว่า C (5 -10)
ุ
็
่
ื
็
่
จะเหนว่าค่า J ของหนวยงาน A จะเปนค่า I ของหนวยงาน B และ C หรออาจสรปได้ว่า ค่า j
่
่
็
่
ของหนวยงานใดก็ตาม จะเปนค่า i ของหนวยงานที่ท าต่อ และกลุ่มหนวยงานใดที่มีค่า i เหมือนกันแสดงว่า
ิ
กลุมหนวยงานนั้นจะเร่มต้นงานจาก เวลา เดยวกัน ดังเชน B และ C มีค่า i (5) เหมือนกันจะเร่มงานจากจด
่
ี
ิ
ุ
่
่
์
ี
่
ื
่
หรอเวลาเดยวกัน จากความสมพันธดังกล่าวน้ อาจจะกล่าวได้วา ถ้าเราทราบชอและทราบค่า i - j ของ
ื
ั
ี
่
หนวยงานแตละหนวย เราจะทราบถึงความสมพันธของหนวยงานนั้น ๆ ได้ โดยไม่ต้องเหนผังงาน
็
ั
่
์
่
่
่
ี
ึ
่
่
ึ
นอกจากน้ ในการค านวณหาค่าเวลาตาง ซงจะอธบายในตอนต่อ ๆ ไป ซงปกติจะค านวณหา
ิ
็
์
ี
ื่
ื
ได้ด้วยวธธรรมดา หรอจะค านวณด้วยเครองคอมพิวเตอรก็ตาม ค่า i - j ของแต่ละหนวยงาน จะเปนตัวที่
่
ิ
่
ื
่
่
ุ
ระบต าแหนงและชอของหนวยงานนั้น ดังนั้นค่า i -j ของหนวยงานจะซ ้ากันไม่ได้ ยกเว้นค่า i หรอ j เพียงตัว
่
ื
เดยวอาจซ ้ากันได้
ี
่
5.4.2 แนวทางการก าหนดหมายเลขหนวยงาน
่
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นในการก าหนดหมายเลขหนวยงาน หรอค่า i - j ที่ได้กล่าวมา
ื
ื
่
่
่
่
ิ
่
ิ
แตต้นวาจะใช้หมายเลขใดก็ได้นั้น เพอความสะดวกตอการปฏบัตในขั้นตอ ๆ ไป จะได้ก าหนดกฎเกณฑ์ใน
ี
้
ิ
ิ
การให้หมายเลข i - j ใหถือปฏบัตไว้ดังน้
้
้
ิ
ิ
5.4.2.1 ตัวเลข i - j ควรเร่มจากน้อยไปหามาก และจากซายไปขวาตามทศทางของเสน
่
่
่
ลูกศรเพื่อชวยในการจัดล าดับหนวยงาน และอ่านหาต าแหนงหนวยงานได้ง่าย
่
5.4.2.2 ถ้ามีหนวยงานวางซ้อนกัน 2 - 3 แถวขึ้นไปควรใหตัวเลขเรยงอันดับจากแถว
้
ี
่
บนลงมาแถวล่างจะอ่านผังงานได้ง่ายดังตัวอย่าง