Page 22 - ป้อมสนาม
P. 22
2-7
็
ื
้
้
ี่
ิ
้
้
ุ
้
ี
้
ทใชจะมผลต่อขาศึกกตาม แต่จะไม่ทาใหเกดผลรนแรงกับขาศึกมากมายนัก ถาไม่สรางใหมากใหเกนกาลังหรอ
้
้
ิ
ื
ี
็
ี
ี
ิ
้
ี่
้
้
ขดความสามารถของขาศึกททาการเจาะช่องหรอทาลายเครองกดขวางได ผลสาเรจน้จะไม่เกดขึ้นหากไม่สราง
ื่
ี
ี
ื
ี่
ื่
เครองกดขวางใหมความลึกมาก ๆ เนองจากว่าการสรางเครองกดขวางในพ้นทกวาง ๆ และลึกมากตองใชเวลา
้
้
้
้
ื่
ื่
้
ี
ี
้
กาลังคนและวัสดุมากมาย ดังนั้นเราจึงตองสรางเครองกดขวางทละแนวตามลาดับจากขางหนามาขางหลังใน
้
ี
้
้
ื่
้
็
้
้
้
้
ื่
ื่
ี
้
ี่
เมอมเวลาจึงจะสรางใหเสรจสมบูรณ แนวเครองกดขวางทซอนๆ กันน้ จะบังคับใหขาศึกตองใชกาลัง และปร บ
ั
้
ี
้
ี
์
้
้
้
รปขบวนไม่หยุดหย่อน จึงทาใหขาศึกตองกระจายกาลังออกไปซึ่งทาใหเกดผลดีกับฝายเรา
ิ
้
่
ู
่
่
่
่
่
้
ี
2.10 จดใหมชองทางและชองวางทีซอนพราง ( Provide Concealed lanes and gaps )
ั
ื
็
้
ื
ื่
้
ี
ี่
ไม่ว่าเราจะใชเครองกดขวางเปนแนว ( belt), แถบ (bands) หรอพ้นท (Zones) ตามกวาง
ื
ื
้
็
ี
้
ี่
ี่
ื่
้
ดานหนาของทมั่น หรอพ้นทใดพ้นทหนึ่งกตาม จะตองมีช่องทางหรอช่องวางผ่าน ระบบเครองกดขวางนั้น
ี่
ื
ื
้
ี
้
้
ี
้
ื่
่
ิ
มิฉะนั้นแลวจะขัดขวางการปฏบัติงานของฝายเรา ช่องทางเหล่าน้มไวเพอใหพวกลาดตระเวนตีโตตอบ และ
ื่
ี่
้
ื่
้
ี
ุ
ี
ในบางกรณการรกโดยทั่วไปอาจเคลอนทผ่านระบบเครองกดขวางไปได โดยไม่ตองเจาะช่องเปนสิ่งสาคัญอย่าง
็
้
ื่
ี่
ทสุดทช่องทางทั้งสิ้นจะตองปดกั้นเมอคาดว่าขาศึกจะเขาปฏบัติการ จงระมัดระวังอย่าใหเครองกดขวางทท่าน
้
ิ
ี่
ี
ื่
ิ
้
้
ี่
ี
้
ื่
ี่
ื่
ใชนั้นขัดขวางการเคลอนทของท่านเอง เพราะว่าถาเปนดังนั้นแลวกเท่ากับว่า เครองกดข วางนั้นทาประโยชน ์
็
็
้
้
ใหแก่ขาศึก.
้
้
ื
้
่
ุ
3. การคมครองเครองกีดขวาง
ี่
็
้
้
้
ี
ื่
ี
เครองกดขวางทุกชนิดจะมประสิทธภาพมากทสุด จาเปนตองคุมครองดวยอานาจการยิงเพื่อมิให ้
ิ
ื
้
ี่
้
ื
ี่
ื
ี่
ื
็
ทาลายหรอร้อถอน โดยใช ปก ., ปตถ. ฯลฯ ตามธรรมดาเปนหนาทของหน่วยทหารทยึดพ้นทนั้นหรอทหารท ี่
ี่
ี่
้
้
ี
ื่
ี
ไดรบมอบหนาททาการคุมครองปองกัน ซึ่งมีความคล่องแคล่วในการเคลอนทมอาวุธยิงฉกรรจ ์ มการ
ั
้
้
ติดต่อสอสารดีพอ
ื่
้
้
้
้
์
ี่
ื่
ทหารช่างสนามทไดสรางเครองกดขวางขึ้นเฉพาะแห่ง และเปนประโยชนต่อส่วนรวมจะตองคุมครอง
็
ี
้
ี่
ี
้
ั
ื่
เครองกดขวางนั้น ๆ ไวก่อน แลวจึงมอบใหทหารเหล่ าอนรบหนาทคุมครองแทนทหารช่าง เพอใหทหารช่าง
้
ื่
ื่
้
้
้
ื่
ิ
ปฏบัติงานช่างอน ๆ ต่อไป
ั
่
4. ลกษณะทีตั้งอาวธเพือคุมครองเครองกีดขวาง
ื
่
้
ุ
่
ื่
้
ี
้
้
4.1 ต าบลทตั้ง ปก ., ปตถ. และยามเฝาเครองกดขวาง จะตองมีการพรางและสามารถคุมครอง
ี่
้
ื่
ี
เครองกดขวางการยิงตั้งแต่ระยะใกลจนถึงระยะปานกลาง
่
ื
ี่
้
้
้
4.2 ต าบลทตั้งของพลปนเล็ก อยูขางหนาทตั้ง ปก. และ ปตถ. พลปนเล็กทาหนาทคุมครอง
ี่
ื
้
ี่
่
้
้
เครองกดขวางดวยการยิงและปองกันมิใหทตั้งอาวุธกลถูกจูโจม โดยแจงการเขามาของขาศึกโดยด่วน
้
้
้
้
ื่
ี
ี่
ี
ี่
4.3 ต าบลทตั้ง ปก.30 และ ปก. 50 ควรอยูห่างจากเครองกดขวางประมาณ 300 - 600 ม. มพ้น
ื
ื่
ี
่
์
ื
ื่
้
ี
ุ
การยิงรนแรงและตรวจการณเห็นเครองกดขวางไดทั้งกลางวันและกลางคืนหรอเมอทัศนะวิสัยเลว
ื่
ื่
ี
ี่
่
4.4 ต าบลทตั้ง คจตถ.ควรอยูห่างจากเครองกดขวางประมาณ 100 - 200 ม.