Page 17 - แหล่งหิน
P. 17
1-8
้
ี่
ี
่
้
้
็
้
2) ถาจาเปนตองตัดช่องทางใหขนานกับแนวสันหิน ช่องทางควรจะอยูดานทชั้นหินลาดเอยงออก
้
ี
้
ไปในทิศทางตรงกันขามเพื่อปองกันการลนไถลของชั้นหินเขาหาช่องทาง วิธน้จะเหมาะในกรณทตองตัด
้
ี
ี
้
ื่
ี่
ี
้
ี่
ู
เสนทางเลยบตามไหล่เขา ดังแสดงในรปท 1.11
่
้
ี
ี
่
ั
้
้
รูปท 1.11 การเลอกเสนทางกรณทีตองตัดเสนทางขนานแนวสนหิน
ื
่
ไมด ี ด ี
้
้
ี
้
3) ถาจาเปนตองตัดช่องทางใหขนานกับแนวสันหิน และชั้นหินลาดเอยงเขาหาช่องทาง อาจ
็
้
ั
้
ื่
้
ี
แกปญหาดวยการตัดลาดใหเหมาะสมกับการลาดเอยงของชั้นหิน เพอปองกันการลนไถลของชั้นหิน ดัง
ื่
้
้
ู
แสดงในรปท 1.12
ี่
ั
ี
้
่
ี
ั
รูปท 1.12 การตัดลาดใหเหมาะสมกบความลาดเอยงของช้นหิน
1 1
Cut to
2 1 Dip Angle
DIP: 0-18 DIP: 18-35 DIP: 35-75
1 1
2 or 4 2 or 4
DIP: 75-90 DIP: AWAY FROM ROAD
้
้
้
ี
ี่
ื
้
4) ในกรณทไม่สามารถตัดเสนทางใหขนานหรอตั้งฉากกับแนวสันหินได กล่าวคือตัดเสนทางทามุม
ี
ี
ี่
ี
ิ
ี
กับแนวสันหิน ในกรณเช่นน้แนวลาดเอยงของชั้นหินทเห็นจะไม่ใช่แ นวลาดเอยงหรอแนวเทจรง (True Dip)
ื
แต่จะเห็นเปนแนวเทปรากฎ (Apparent Dip) ซึ่งเมอเปนเช่นน้ จะตองมีการค านวณหามุมทชั้นหินลาดเอยง
็
ี
็
ี
้
ี่
ื่
้
ิ
ื่
้
ิ
เขาหาช่องทางจรงๆ เพื่อนามาใชเปนขอมูลในการตัดลาดตามทกล่าวไวในขอ ค. เพอใหเกดความ
้
็
ี่
้
้
้
เขาใจ การเกดแนวเทปรากฎสามารถขยายความไดดังน้ ี
้
ิ
้

