Page 10 - แหล่งหิน
P. 10
1-1
บทที 1
่
ธรณโครงสราง
้
ี
็
ี
ี่
ธรณโครงสราง (Structural Geology) เปนสาขาวิชาทางธรณวิทยาทศึกษาเกยวกับโครงสรางของ
ี
ี่
้
้
ิ
ี
ื
ื่
ี่
ื
เปลอกโลก การเปลยนรปและปรมาตรของเปลอกโลก เมอมการเคลอนไหวเนองจากแรงกระทาภายใต ้
ู
ื่
ื่
ี่
้
้
ี
ี
์
ื่
ื
้
เปลอกโลก วิชาธรณโครงสรางนาไปใชประโยชนไดหลายทาง เช่ น การสารวจเพอทาแผนทธรณวิทยาลาดับ
ี
็
์
้
ชั้นหินและดิน การขุดเจาะสารวจเพองานก่อสราง นอกจากน้ยังเปนพ้นฐานในการศึกษากลศาสตรของหิน
ื่
ื
และดินดวย
้
ู
ื
ี่
้
ิ
ี่
้
่
ลักษณะโครงสราง การเปลยนรปและปรมาตรของเปลอกโลก ส่วนใหญจะเกยวของกับหินชั้น
็
ิ
ื
ี่
้
(Sedimentary Rock) เพราะโดยธรรมชาติหินชั้นเกดบนพ้นผิวโลกหรอใกลผิวโลก และเปนหินทโผล่ขึ้น
ื
ี
ื
้
มาถึง 75% ของหินทั้งหมด แต่อาจจะพบหินอัคนโผล่แทรกตัวขึ้นมาหรอไหลคลุมทับชั้นหินอนบาง และยัง
ื่
อาจพบหินแปรทไดจากภาวะแปรสภาพอกดวย
ี่
้
้
ี
ั
้
1. โครงสรางของหินช้น
ั
1.1 ช้นหิน
ิ
็
ี
หินชั้นจะมีลักษณะการวางตัวเปนชั้นๆ เรยกว่า ช้นหิน (Bed) ซึ่งเกดจากการตกตะกอนทับถมกัน
ั
้
ของเศษดินเศษหินต่างๆ ชั้นหินแต่ละชั้นจะมีความหนามากนอยแตกต่างกัน ตั้งแต่เซนติเมตรจนถึงหลาย
้
่
ื่
้
เมตร ขึ้นอยูกับระยะเวลาต่อเนองในการตกตะกอน ชั้นหินแต่ละชั้นจะถูกแบ่งใหเห็นชัดเจนดวยแผ่นระ นาบ
เรยกว่า แผนระนาบช้นหิน (Bedding Plane) โดยส่วนใหญแลวพ้นผิวแต่ละชั้นของชั้นหินจะขนานกัน ดัง
ื
้
ี
่
่
ั
ู
แสดงในรปท 1.1
ี่
ี
่
รูปท 1.1 ช้นหิน (Bed) และ แผนระนาบช้นหิน (Bedding Plane)
่
ั
ั
ชั้นหิน (BED)
แผ่นระนาบชั้นหิน
(BEDDING PLANE)

